“FDA สหรัฐฯ” อนุมัติใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ เพื่อรักษาผู้ป่วยโควิดที่อาการเล็กน้อย

491
0
Share:
ยาโมลนูพิราเวียร์
องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ได้ประกาศออกใบอนุญาตการใช้ในกรณีฉุกเฉิน (EUA) สำหรับยา “โมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir)” ของบริษัทเมอร์ค (Merck) ในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลาง และมีความเสี่ยงสูงต่อการป่วยรุนแรง รวมถึงสามารถใช้รักษาผู้ที่ไม่สามารถใช้วิธีอื่นในการรักษาโควิด-19 อื่นๆ ได้ ซึ่งผู้ป่วยโควิด-19 สามารถรับยาโมลนูพิราเวียร์ได้ตามใบสั่งแพทย์เท่านั้น และควรรับยาโดยเร็วที่สุดหลังจากการวินิจฉัยพบโควิด-19 ภายใน 5 วันหลังจากเริ่มมีอาการ
 
นอกจากนี้ โมลนูพิราเวียร์ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในผู้ป่วยที่อายุน้อยกว่า 18 ปี เนื่องจากอาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตของกระดูกและกระดูกอ่อน ไม่อนุญาตสำหรับการรับประทานเพื่อป้องกันการติดเชื้อ และหากป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาลแล้วก็ไม่มีความจำเป็นต้องรับยาตัวนี้ ซึ่งยาไม่ได้ทดแทนการฉีดวัคซีน-19 ประชาชนยังควรเข้ารับการฉีดวัคซีนให้ครบถ้วนอยู่
 
โมลนูพิราเวียร์เป็นยาที่ช่วยป้องกันไม่ให้ไวรัสแพร่กระจายตัว ในรูปแบบแคปซูลขนาด 200 มิลลิกรัม 4 แคปซูล รับประทานทุก ๆ 12 ชั่วโมงเป็นเวลา 5 วัน รวมเป็น 40 แคปซูล ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้นานเกิน 5 วันติดต่อกัน ในช่วง 29 วันของการศึกษา จากกลุ่มตัวอย่าง 709 คนที่ได้รับโมลนูพิราเวียร์ พบว่า มีอยู่ 6.8% ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตภายในช่วงเวลานี้ เทียบกับ 9.7% ของ 699 คนที่ได้รับยาหลอก
 
ในกลุ่มผู้ที่ได้รับโมลนูพิราเวียร์ พบผู้เสียชีวิต 1 รายในช่วงติดตามผล เทียบกับ 9 รายในกลุ่มที่ได้รับยาหลอก และผลข้างเคียงที่สังเกตได้ในการทดลอง ได้แก่ อาการท้องร่วง คลื่นไส้ และเวียนศีรษะ 
 
และโมลนูพิราเวียร์อาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์เมื่อให้ยาแก่ผู้ตั้งครรภ์ ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้ใช้โมลนูพิราเวียร์ในระหว่างตั้งครรภ์ โมลนูพิราเวียร์ได้รับอนุญาตให้สั่งจ่ายยาให้กับหญิงตั้งครรภ์ได้ก็ต่อเมื่อผู้ให้บริการด้านการแพทย์ที่สั่งจ่ายยาได้พิจารณาแล้วว่าประโยชน์ของการรักษาด้วยโมลนูพิราเวียร์จะมีมากเกินความเสี่ยงต่อผู้ป่วยแต่ละราย