FETCOแนะรัฐแยกวงเงินลดหย่อนภาษี กองทุนใหม่กับRMF

679
0
Share:

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย หรือ FETCO กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของกระทรวงการคลัง ที่จะรวมวงเงินลดหย่อนภาษีของกองทุนใหม่ที่จะมาแทนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือ LTF และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือ RMF รวม 500,000 บาทต่อปี เนื่องจากจะทำให้เม็ดเงินการออมระยะยาวเข้าตลาดสู่ตลาดทุนลดลง เพราะปัจจุบันการลงทุนใน RMF จะมีวงเงินสะสมของนายจ้างรวมอยู่ด้วย รวมถึงประชาชนยังไม่ตระหนักถึงการออมเพื่อวัยเกษียณมากนัก ดังนั้นหากรวมวงเงินยิ่งจะทำให้การออมระยะยาวลดน้อยลง
.
โดย FETCO ยังเสนอให้แยกวงเงินระหว่างกองทุนใหม่ และ RMF โดยให้ RMF คงวงเงินลดหย่อนภาษีได้ 500,000 บาทต่อปีเช่นเดิม และเพิ่มวงเงินลดหย่อนสำหรับกองทุนใหม่อย่างน้อย 200,000-250,000 บาทต่อปี เพื่อให้มีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนในตลาดทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาในแต่ละปีมีเม็ดเงินลงทุนจากกองทุน LTF เข้ามาลงทุนเฉลี่ยปีละ 50,000 ล้านบาท ซึ่งสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดทุนไทยค่อนข้างมาก
.
ส่วนระยะเวลาในการออมกองทุนใหม่มองว่า ควรอยู่ที่ 10 ปีน่าจะเพียงพอต่อการออม และความสนใจของประชาชน ที่จะเริ่มสร้างวินัยการออมในระยะยาว เพราะหากเป็น 15 ปีอาจเป็นการออมที่ยาวเกินไป
.
ดังนั้นกระทรวงการคลังจะต้องเร่งหาข้อสรุป และให้ความสำคัญกับตลาดหุ้น เชื่อว่าหากรวมวงเงินกันระหว่างกองทุนใหม่และ RMF ในปีหน้าอาจทำให้เม็ดเงินลงทุนที่เคยได้จาก LTF จะหายไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง
.
ทั้งนี้ยอมรับว่านักลงทุนยังไม่มีความเชื่อมั่น สะท้อนผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในปัจจุบัน ยังสร้างผลตอบแทนต่ำ และรั้ง 5 อันดับสุดท้ายของโลก หรือมีผลตอบแทนเติบโตเพียง 2-3% เท่านั้น ซึ่งถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับประเทศที่มีสงครามการค้าระหว่างกัน โดยสหรัฐผลตอบแทนในการลงทุนในตลาดทุนสูงถึง 30% ขณะที่จีนมีผลตอบแทนสูงถึง 20%
.
โดยในปัจจุบัน พบว่าเม็ดเงินต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนระยะสั้น แต่ไทยยังขาดนักลงทุนระยะยาว ซึ่งเป็นไปตามภาวะตลาด โดยมองว่า ไทยยังขาดนักลงทุนในระยะยาว ดังนั้นจึงต้องเร่งหาข้อสรุปให้แล้วเสร็จโดยเร็ว