‘IMF’ ชี้หนี้สาธารณะทั่วโลกพุ่งสูงถึง 94.4% จากปัจจัยสงคราม-เงินเฟ้อพุ่ง-โควิดระบาด

375
0
Share:

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่าหนี้สาธารณะทั่วโลกคาดว่าจะอยู่ที่ 94.4% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของโลกในปี 2565 ลดลง 2.6% จากปีก่อนหน้า แต่สงครามของรัสเซียในยูเครนได้สร้างความไม่แน่นอนที่สูงขึ้นสำหรับแนวโน้มการคลัง

ซึ่งทางด้านประเทศญี่ปุ่น ได้มีสุขภาพทางการคลังแย่ที่สุด ในกลุ่มเศรษฐกิจอุตสาหกรรมหลัก คาดว่ามีอัตราส่วนหนี้สินต่อ GDP ของรัฐบาลจะอยู่ที่ 262.5% ในปีนี้ ซึ่งต่ำกว่าปีก่อนหน้า 0.6 จุด ตัวเลขคาดว่าจะอยู่ที่ 261.8% ในปี 2570 สำหรับสหรัฐ อัตราส่วนดังกล่าวคาดว่าจะอยู่ที่ 125.6% ในปี 2565 และ 127.4% ในปี 2570

ด้วยผลจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนและผลกระทบจากการคว่ำบาตรรัสเซียที่ยังไม่ทราบแน่ชัด มีความเสี่ยงจำนวนมากเกี่ยวกับแนวโน้มการขาดดุลและหนี้สิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากการเติบโตทางเศรษฐกิจผิดหวังหรือการเปลี่ยนแปลงของอัตราเงินเฟ้อดำเนินต่อไป รวมถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ที่กำลังคลี่คลาย หลังจากที่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่เพื่อจัดการกับภาวะถดถอยที่เกิดจากวิกฤตสาธารณสุข

ซึ่งการสนับสนุนทางการเงินระหว่างการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ส่งผลให้หนี้พุ่งสูงสุดในรอบ 1 ปี นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 โดยหนี้ภาครัฐและเอกชนเพิ่มขึ้น 28 point ในปี 2563 เป็น 256% ของ GDP โลก

ทั้งนี้หนี้สาธารณะโดยเฉลี่ยในประเทศที่พัฒนาแล้วคาดว่าจะลดลงเป็น 113.1% ของ GDP ภายในปี 2567 จากการฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่เกิดจากการระบาดใหญ่ แต่หนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดเกิดใหม่ โดยได้แรงหนุนจากจีนเป็นหลัก โดยจะแตะระดับ 72.1% ของ GDP ภายในปี 2567 อัตราส่วนหนี้สินต่อ GDP ของรัฐบาลจีนคาดว่าจะอยู่ที่ 77.8% ในปี 2565 และยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็น 95.4% ในปี 2570 ในระยะกลาง หนี้สาธารณะทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะทรงตัวที่ประมาณ 95% ของ GDP ซึ่งสูงกว่าช่วงก่อนการระบาดใหญ่ 11point ตามข้อมูลของ IMF