PM 2.5 อันดับ 8 ของโลก

2779
0
Share:

สถานการณ์ค่าฝุ่น PM 2.5 ของไทยช่วงเช้าวันนี้เวลาประมาณ 9.40 น. สูงเป็นอันดับ 8 ของโลก โดยค่าฝุ่นในกรุงเทพแตะ 174 USAQI และค่าฝุ่น PM2.5 แตะ 100.6 ซึ่งคาดว่าทั้งสัปดาห์นี้ค่าฝุ่นในกรุงเทพอยู่ 101-200 USAQI
.
ด้านกรมควบคุมมลพิษ ขอรายงานข้อมูลคุณภาพอากาศ ประจำวันที่ 20 มกราคม 2563 เวลา 7.00 น.
.
ผลการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยกรมควบคุมมลพิษร่วมกับกรุงเทพมหานคร จำนวน 53 สถานี ตรวจวัดค่าได้ 47 – 89 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยปริมาณฝุ่นละอองในภาพรวมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลายพื้นที่จากเมื่อวาน โดยพบพื้นที่ที่มีปริมาณฝุ่นละอองอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ หรือ พื้นที่สีส้ม 49 พื้นที่ ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว ควรลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น และติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองอย่างใกล้ชิด
.
จึงได้ประสานงานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการควบคุม กำกับ ดูแล ภารกิจตามมาตรการ “ภายใต้แผนปฏิบัติการ ขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ ” อย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาสถานการณ์ฝุ่นละอองให้กลับสู่ปกติ
.
อย่างไรก็ตามนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว ว่าสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในขณะนี้ดีขึ้นเมื่อเทียบจากเดือนพฤศจิกายน 2562 และขอความร่วมมือประชาชนอย่าตื่นตระหนก ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมแนะนำให้ประชาชน วัดค่าฝุ่นจากหน่วยงานภาครัฐ อย่างแอปพลิเคชั่น “Air4Thai” ที่จะมีการแจ้งเตือนจากกรมควบคุมมลพิษวันละ 3 เวลา
.
นอกจากนี้ยังมี 12 มาตรการที่จะเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 21 มกราคม ซึ่งเป็นมาตรการที่จะครอบคลุมพื้นที่ทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทั้งการขยายพื้นที่ จำกัดรถบรรทุกเข้ากรุงเทพมหานคร // ห้ามรถบรรทุกเข้าพื้นที่ชั้นในกรุงเทพฯ ในวันคี่ ระหว่างเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2563// การตรวจรถควันดำรถโดยสาร และรถบรรทุก เพื่อออกคำสั่งห้ามใช้รถ และตรวจสอบโรงงานที่ทำให้เกิดฝุ่นละออง หากไม่แก้ไขจะสั่งให้หยุดการประกอบกิจการ
.
นอกจากนี้กำกับให้กิจกรรมการก่อสร้างรถไฟฟ้า และการก่อสร้างอื่นๆ เป็นไปตามข้อกำหนดไม่ทำให้เกิดฝุ่น // ไม่ให้มีการเผาในที่โล่งในพื้นที่ กทม. และปริมนฑล ขณะที่จังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาศัยอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายที่ควบคุมการเผาในที่โล่งในช่วงสถานการณ์วิกฤตฝุ่นละออง และเข้มงวดการควบคุมยานพาหนะ โรงงานอุตสาหกรรม และการก่อสร้าง รวมถึงลดราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ที่มีปริมาณกำมะถันไม่เกิน 10 ppm และขอความร่วมมือในการลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวมาทำงาน