SET Index ปิดพุ่ง 14.35 จุด รับแรงซื้อกลับหุ้นใหญ่ หลัง 8 พรรคการเมืองเซ็น MOU

178
0
Share:
SET Index หุ้นไทย ปิดพุ่ง 14.35 จุด รับแรงซื้อกลับหุ้นใหญ่ หลัง 8 พรรคการเมืองเซ็น MOU

ดัชนี SET Index ปิดวันนี้ที่ 1,529.24 จุด เพิ่มขึ้น 14.35 จุด หรือ +0.95% ด้วย มูลค่าการซื้อขาย 55,532 ล้านบาท โดยการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีแกว่งผันผวน จากปรับลงเคลื่อนไหวแดนลบหลุดระดับ 1,500 จุดในช่วงเช้า และพลิกกลับมาดีดขึ้นในแดนบวกช่วงบ่าย โดยทำจุดสูงสุดที่ 1,531.01 จุด และต่ำสุดที่ 1,491.12 จุด ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 248 หลักทรัพย์ ลดลง 246 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 155 หลักทรัพย์

โดย 3 ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,415.68 ล้านบาท ปิดที่ 62.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
2. DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,234,23 ล้านบาท ปิดที่ 92.25 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท
3. AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,185.39 ล้านบาท ปิดที่ 72.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในวันนี้เคลื่อนไหวผันผวน จากที่ในช่วงเช้าปรับตัวลงไปหลุด 1,500 จุด และช่วงบ่ายสามารถพลิกกลับมาเป็นบวกได้ โดยที่มีแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่กลับเข้ามา โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า และค้าปลีก ที่ปรับลงไปมากในสัปดาห์ก่อน ขณะเดียวกันความกังวลเกี่ยวกับปัจจัยทางการเมืองในเย็นวันนี้ได้เห็นความชัดเจนออกมา จากการแถลง MOU ของพรรคก้าวไกล และพรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงการที่ไม่มีนโยบายที่สร้างแรงเสียดทานทางสังคมของพรรคก้าวไกลถูกบรรจุเข้าไปใน MOU จากเอกสารที่มีข่าวออกมา ทำให้คาดว่าการจัดตั้งรัฐบาลและการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีจากพรรคก้าวไกลจะสามารถเดินหน้าได้สำเร็จ ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น

ขณะที่แนวโน้มพรุ่งนี้คาดว่าแกว่งไซด์เวย์ โดยที่ปัจจัยที่ต้องติดตามยังคงเป็นปัจจัยภายนอกเกี่ยวกับการเจรจาขยายเพดานหนี้ของสหรัฐที่ยังไม่ได้ข้อสิ้นสุด รวมถึงประเด็นการเมืองในประเทศที่เกิดขึ้นว่าจะเดินต่อไปอย่างไร หลังจากที่วันนี้มีการแถลง MOU ออกมาชัดเจนแล้ว พร้อมให้แนวต้าน 1,540 จุด แนวรับ 1,510 จุด

ด้านนายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากดัชนีช่วงเช้าปรับฐานลงมาต่ำกว่า 1,500 จุด แต่ในช่วงบ่ายกลับมีแรงซื้อคืนมาจนแรงขายในช่วงเช้าหายไป โดยแรงซื้อส่วนใหญ่น่าจะมาจากกลุ่มกองทุน SSF และ RMF เพราะช่วงนี้ตลาดหุ้นไทยมีการประเมินมูลค่า (Valuation) อยู่ในระดับที่น่าสนใจ โดย “12-month P/E” อยู่ที่ 14.9 เท่าซึ่งเป็นอัตราที่ดีที่สุดในรอบ 3 ปี ซึ่งดัชนีฯ ได้รับอานิสงส์จากการซื้อภายในประเทศ เพราะต่างประเทศเทขายหุ้นไทยติดต่อกันมาตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง ประกอบกับสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินบาท

สำหรับวันพรุ่งนี้ (23 พ.ค.) ดัชนีฯ มีโอกาสปรับตัวเป็นบวกต่อ จากปัจจัยการเมืองที่มีหวังมากขึ้น และประเด็นเพดานหนี้สาธารณะสหรัฐคลี่คลาย ประเมินแนวรับในช่วง 1,500-1,491 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,520-1,526 จุด

หมายเหตุ – ข้อมูลเพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ใช่ข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน