TDRI เชื่อ“ชิมช้อปใช้”รายใหญ่จะได้ประโยชน์

1274
0
Share:

นาย นณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโสสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ กล่าวถึงโครงการ “ชิมช้อปใช้” ว่า พบปัญหาในทางปฏิบัติ เช่น การยืนยันตัวตนที่ซับซ้อน ไม่รองรับกลุ่มผู้สูงอายุและผู้พิการ และการหาร้านค้าที่มีระบุไว้ในแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง”ไม่ตรงกับพื้นที่จริง เป็นสาเหตุที่ทำให้ประชาชนที่รับสิทธิ์จะนำเงินไปใช้กับร้านค้าขนาดใหญ่ที่มีแหล่งที่ตั้งชัดเจน และเปิดให้บริการเป็นเวลา เพราะสะดวกมากกว่า ทำให้การกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ที่ต้องการ ในการกระจายเม็ดเงินลงสู่ชุมชน
.
ส่วนวงเงินของโครงการ ในส่วนแรกที่มีการแจกเงิน 1,000 บาท และมอบให้กับประชาชน 10 ล้านคน เชื่อว่าประชาชนจะใช้สิทธิ์จนหมด ส่วนวงเงินในส่วน G-Wallet ที่สามารถเติมเงินและใช้จ่ายเพื่อรับเงินคืน 15% ของยอดใช้จ่าย คาดว่าประชาชนจะไม่ได้ใช้สิทธิ์นำไปเที่ยวอย่างมีนัยยะ ซึ่งในทางเศรษฐศาสตร์ไม่นับวงเงินส่วนนี้ว่าจากการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะประชาชนจะนำสิทธิ์นี้ไปใช้จ่ายสินค้าจำเป็นเพื่อบริโภคมากกว่า จึงมองว่ามาตรการนี้จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้เพียง 0.01 % เท่านั้น ไม่สามารถดันเศรษฐกิจโตได้ 3% อย่างที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้
.
ส่วนการพัฒนาเป็นโครงการ ชิมช้อปใช้ เฟส 2 ควรมีการปรับวิธีการเพื่อรองรับผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโดยตรงให้ได้รับอานิสงค์จากโครงการ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลาง
.
ด้านนางสาวณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่า คาดว่ามาตรการ “ชิม ช้อป ใช้” จะช่วยหนุนจีดีพีไทยประมาณ 0.02% ส่วนในปีหน้าต้องรอติดตามว่าจะมีมาตรการทางการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งหากมีก็ควรเน้นไปที่การดูแลแรงงานที่ไม่มีหลักประกันทางสังคมรองรับ อย่างเช่นกลุ่มอาชีพอิสระ รวมถึงเอสเอ็มอีที่ยอดขายชะลอตัวลง หลังผู้บริโภคระวังการใช้จ่าย
.
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังระบุว่า มาตรการ ชิม ช้อป ใช้ เฟส 2 จะมีหรือไม่ ขอเวลาประเมินผลมาตรการ ชิม ช้อป ใช้ ในปัจจุบันก่อน คาดว่าจะมีข้อสรุปภายในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งต้องพิจารณาถึงภาวะเศรษฐกิจโดยรวมว่ามีทิศทางเปลี่ยนแปลงหรือไม่
.
ส่วนโครงการ ชิม ช้อป ใช้ เฟสแรก แม้ในวันนี้มีผู้ลงทะเบียนรวม 10 ล้านรายแล้ว แต่ในช่วงที่ผ่านมามีผู้ไม่ได้รับสิทธิกว่า 2 ล้านราย ดังนั้นหลังจากนี้กระทรวงการคลังยังเปิดให้ผู้ที่ยังไม่ได้ลงทะเบียน สามารถลงทะเบียนได้ต่อเนื่อง จนกว่าจะมีผู้ได้รับสิทธิครบ 10 ล้านราย หรือจนถึงวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้