WHO เผยรายงานพบเชื้อโควิดไม่ได้หลุดจากห้องแล็บในอู่ฮั่น แต่เป็นการระบาดจากสัตว์สู่คน

880
0
Share:

องค์การอนามัยโลก (World Health Organization-WHO) เปิดเผยรายงานสรุปการสืบสวนหาต้นตอของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ซึ่งได้ระบุว่ามีความเป็นไปไม่ได้อย่างมากที่ต้นตอของเชื้อไวรัสหลุดออกมาจากห้องแล็บของสถาบันวิทยาไวรัสอู่ฮั่น แต่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการระบาดในสัตว์ตัวหนึ่งสู่สัตว์อีกตัวหนึ่งก่อนที่จะระบาดมาสู่คน

.

นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกระบุว่า อนามัยโลกต้องการข้อมูลและต้องทำการศึกษาวิจัยมากกว่านี้สำหรับการยืนยันข้อสงสัยที่ว่าเชื้อหลุดออกมาจากห้องแล็บจีน โดยบอกว่า ทีมผู้เชี่ยวชาญได้ประสบความยากลำบากในการเข้าถึงข้อมูลดิบและเรียกร้องให้เกิดการแบ่งปันข้อมูล ในการสืบสวนมากกว่านี้ ซึ่งตั้งแต่พบเชื้อรัฐบาลจีนได้ออกมาปฏิเสธว่า เป็นเชื้อที่หลุดออกมาสู่ภายนอกระหว่างการทดลองในห้องแล็บ จนถึงตอนนี้เชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ได้แพร่ระบาดไปทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 128.7 ล้านราย มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2.8 ล้านศพ

.

ก่อนหน้านี้ ทีมนักวิทยาศาสตร์ 17 คนของอนามัยโลกได้เดินทางไปยังเมืองอู่ฮั่น เพื่อสืบหาต้นตอของเชื้อไวรัส แต่เป็นเพียงการศึกษาจากตัวอย่างและหลักฐานต่างๆ ที่รัฐจัดหามาให้ โดยหลังที่เผยแพร่รายงานฉบับนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ และอีก 13 ประเทศ ได้แก่ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย อังกฤษ แคนาดา สาธารณรัฐเช็ก เดนมาร์ก เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิธัวเนีย นอร์เวย์ สโลวีเนีย และอิสราเอล ได้ออกแถลงการณ์ร่วมแสดงความวิตกกังวลต่อรายงานสรุปการสืบหาต้นตอโรคโควิด-19 โดยระบุว่า เป็นรายงานที่ล่าช้าอย่างมีนัยสำคัญ ขาดการเข้าถึงข้อมูลและตัวอย่างที่เป็นต้นฉบับสมบูรณ์ พร้อมเรียกร้องให้จีน เปิดทางให้ผู้เชี่ยวชาญเข้าถึงข้อมูลอย่างเต็มที่

.

ทางด้านเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาว แถลงว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เชื่อว่าชาวอเมริกันสมควรที่จะได้รับรู้ข้อมูลที่ดีกว่านี้ เกี่ยวกับต้นตอโควิด-19 หลังจากที่ประชาคมโลก ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และทุกคนทำงานอย่างหนักในการช่วยชีวิตผู้คนจากความสูญเสียของการแพร่ระบาดที่เกิดขึ้น

.
ขณะที่ นายแพทย์ปีเตอร์ เบน เอ็มบาเร็ค หัวหน้าทีมสืบสวนของอนามัยโลก กล่าวว่า ไม่พบหลักฐานใดๆ ที่บ่งชี้ว่าห้องแล็บในเมืองอู่ฮั่นเป็นต้นตอการแพร่ระบาด โดยบอกว่าทีมงานรู้สึกได้ถึงแรงกดดันทางการเมืองจากจีน แต่ยืนยันว่าไม่เคยได้รับการกดดันให้ลบข้อมูลออกจากรายงานสรุปฉบับนี้และมีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดการระบาดในพื้นที่เมืองอู่ฮั่นตั้งแต่ช่วง ต.ค. หรือ พ.ย. 2562 แต่จีนแจ้งองค์การอนามัยโลกครั้งแรกในวันที่ 3 ม.ค. 2563 หรือประมาณ 1 เดือนหลังจีนมีรายงานการพบผู้ติดเชื้อรายแรก