ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) แพลตฟอร์มอสังหาริมทรัพย์ของไทย เปิดเผย ผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคคนไทยที่มีต่อตลาดที่อยู่อาศัย หรือ DDproperty Thailand Consumer Sentiment Study พบว่า 62% ของผู้บริโภคคิดเรื่องการวางแผนเกษียณมีความถี่มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มวัยเข้าใกล้เกษียณ และผู้ที่มีรายได้ปานกลาง นอกจากนี้ ชีวิตวัยหลังเกษียณส่วนใหญ่เน้นเรื่องการเงิน โดย 70% ตั้งความหวังปลอดภาระหนี้ 63% ต้องการมีอิสระทางการเงิน และ 61% ต้องการมีเงินออมเพียงพอสำหรับค่ารักษาพยาบาล ดังนั้น มุมมองเหล่านี้ได้สะท้อนว่าสภาพคล่องทางการเงินและการวางแผนค่าใช้จ่ายเพื่อดูแลสุขภาพเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตช่วงเกษียณมากที่สุด
ผลสำรวจเปิดเผยต่อไปว่า ความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคคนไทยที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ปรากฏว่า 48% มีเงินออมเพียงพอที่จะซื้อที่อยู่อาศัยแล้ว ซึ่งมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าผู้บริโภคในช่วงวัยอื่นๆ ขณะที่ 42% ยอมรับว่าเก็บเงินออมได้ครึ่งทางแล้ว ซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีกำลังซื้อสูง มี 37% มีการวางแผนซื้อที่อยู่อาศัยในอีก 1 ปีข้างหน้า เนื่องจากความต้องการพื้นที่ส่วนตัวมากขึ้น 45% ถัดมา 32% เป็นการซื้อเพื่อการลงทุน และ 32% ขายบ้านหลังเดิมได้ราคาดี ปัจจัยภายในที่ผู้สูงอายุให้ความสำคัญในการตัดสินใจซื้อ/เช่าที่อยู่อาศัยมากที่สุด ได้แก่ 58% เน้นขนาดที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะพื้นที่ใช้สอยที่เพียงพอในการรองรับกิจกรรมต่างๆ มี 49% มองที่สิ่งอำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัยมาเป็นอันดับแรก ขณะที่ 49% มองไปที่ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร มี 39% สิ่งอำนวยความสะดวกภายในที่อยู่อาศัย ถัดมา 27% การออกแบบและการก่อสร้าง ราว 23% ส่วนมาตรการ/โครงการที่จะช่วยให้มีบ้านเป็นของตัวเองง่ายขึ้น และ 23% ชื่อเสียงของผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯ
ขณะที่ปัจจัยภายนอกโครงการที่ผู้สูงอายุใช้พิจารณาเมื่อเลือกซื้อ/เช่าที่อยู่อาศัยนั้น 56% ต้องการโครงการที่เดินทางสะดวกด้วยระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง และลดความเสี่ยงในการขับขี่ด้วยตนเองเนื่องจากสภาพร่างกายอาจไม่พร้อม รองลงมา 52% ความปลอดภัยของทำเล 52% ถัดมา 43% ทำเลที่ตั้งโครงการ 43% มี 31% โครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกในย่านนั้น มี 26% ส่วนความเจริญของทำเล และอีก 26% ใกล้โรงพยาบาล/สถานพยาบาล เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกในการพบแพทย์หรือรับบริการทางสุขภาพต่างๆ
ทั้งนี้ ผู้สูงอายุเผชิญกับความท้าทายเมื่อยื่นขอสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย พบว่า 75% อุปสรรคสำคัญในการขอสินเชื่อบ้านมาจากรายได้และอาชีพที่ไม่มั่นคง เนื่องจากอาจจะไม่ได้ทำงานประจำที่มีรายได้แน่นอนแล้ว อีก 63% มีเงินดาวน์ไม่พอ และ 38% ขาดเอกสารประกอบในการยื่นกู้