นางสาวประภัสสร รังสิโรจน์ นายกสมาคมร้านอาหารไทยและสตรีทฟู้ด เปิดเผยว่า การเข้ามาของกลุ่มทุนจีน ส่งผลกระทบต่อซัพพลายเชนของภาคการท่องเที่ยวทั้งหมด รวมถึงธุรกิจร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวด้วย เนื่องจากทุนจีนที่เข้ามา จะมาทำเองเบ็ดเสร็จ เหมือนทัวร์ศูนย์เหรียญ คือ มาเที่ยวและมากินอาหารในร้านของคนจีนด้วยกัน ซึ่งขณะนี้เริ่มกลับมาให้เห็นบ้างแล้ว หลังจากการท่องเที่ยวกลับมาคึกคักหลังโควิดคลี่คลาย
อยากให้ภาครัฐลงมาดูพื้นที่จริงอย่างจริงจังว่าภาคธุรกิจได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง ซึ่งจริงๆธุรกิจร้านอาหาร ต้องสงวนไว้สำหรับคนไทย และจากปัจจุบันด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวและกำลังซื้อที่หายไป 50% ทำให้ธุรกิจร้านอาหารมีการปิดกิจการไปถึง 50% อย่างไรก็ตามแม้จะมีปิดตัวไป แต่ก็มีรายใหม่เข้ามา เพราะธุรกิจร้านอาหาร เป็นธุรกิจที่เปิดง่าย และเจ๊งง่ายเช่นกัน ถ้าสายป่านไม่ยาวพอก็ยากที่จะไปต่อ”
น.ส.ประภัสสร กล่าวและว่า คาดการณ์ว่าสิ้นปี 2567 สถานการณ์ธุรกิจร้านอาหารน่าจะสาหัสมากกว่านี้ ซึ่งเมื่อเราอ่อนแอ จะทำให้มีกลุ่มทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจีนเข้ามาช้อนซื้อทรัพย์สิน เพื่อทำธุรกิจของเขาเพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันที่เข้ามาอยู่ในหลายพื้นที่ เช่น รัชดา ห้วยขวาง เป็นต้น โดยเปิดเป็นร้านอาหารจีน เช่น สายพานหมาล่า ภัตตาคารโต๊ะจีน ซึ่งในร้านจะมีพนักงานจีนทั้งหมด
สอดคล้องกับนางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่า เงื่อนไขการทำธุรกิจของผู้ประกอบการต่างชาติในไทย ไม่เข้มงวดเท่ากับที่ผู้ประกอบการไทยที่เข้าไปทำตลาดในต่างประเทศ เช่น จีน ทำให้ผู้ประกอบการไทยเสียโอกาสในการแข่งขัน การที่ทุนจีนเข้ามาทำธุรกิจในไทย ไม่ได้สร้างประโยชน์กับประเทศไทยมากนัก เพราะทั้งแรงงาน ทั้งวัตถุดิบ และการขนส่งมาจากจีนเกือบทั้งหมด ไทยได้แค่เพียงค่าเช่าที่ และค่าจ้างนอมินีเท่านั้น
นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวต่อไปว่า สถานการณ์ปัจจุบันเหมือนในยุคสมัย ก่อนที่ชาวจีนหอบเสื่อผืนหมอนใบ ลงเรือมาลงหลักปักฐานทำกิจการในประเทศไทย แต่วันนี้ต่างกันตรงที่ทุนจีนมีเงินหนาขึ้น ขึ้นเครื่องบินมาทำธุรกิจในไทย ร้านอาหารก็เป็นธุรกิจที่ทำง่าย นำเข้าวัตถุดิบได้จากจีน จ้างแรงงาน ต่างด้าวต้นทุนต่ำ และไม่ต้องการฝีมือในการทำอาหาร จึงได้เห็นร้านบุฟเฟ่ต์ที่เน้นขายวัตถุดิบ เปิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ร้านอาหารเหล่านี้สามารถคืนทุนได้ใน 3 ปี จึงเป็นเป้าหมายของนักธุรกิจจีนที่จะรุกตลาดนี้
ขณะนี้ ธุรกิจค้าปลีก เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ต มีการตรวจพบสินค้านำเข้ามาจำหน่ายในร้านโดยไม่มีฉลากภาษาไทย ทำให้ไม่สามารถรับรู้ข้อมูลส่วนประกอบ ส่วนผสม รายละเอียดสินค้า รวมถึงไม่มีการรับรองจากมาตรฐานของรัฐ เช่น อย. สิ่งเหล่านี้ต้องควรระวังอย่างยิ่ง
นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่า หากต้องการคุมกำเนิดร้านอาหารทุนจีนคุณภาพต่ำ จะต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบ ทั้งเรื่องมาตรฐาน การปฏิบัติตามกฎหมายไทย การเรียกเก็บภาษีและพนักงาน ก็จะช่วยคุมกำเนิดร้านอาหารคุณภาพต่ำได้