เที่ยวสไตล์ใหม่ ซอฟท์พาวเวอร์วัดอรุณฯ l 22 ก.ค. 66 FULL l BTimes Weekend

July 22, 2023

ห่มสไบเที่ยวไม่ตกเทรนด์ ตะลุยเช็คอินปูชนียสถานโบราณ พร้อมชิมไอศกรีมกระเบื้อง 3 มิติยอดนิยมไปกับวัดอรุณวราราม

เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนส่งผลให้พฤติกรรมทางเศรษฐกิจหลายๆ อย่างเปลี่ยน เช่นเดียวกับการไป ‘วัด’ ที่ปัจจุบันไม่ได้มีไว้แค่ไหว้ขอพร แต่กลับเป็นสถานที่สำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และ ‘วัดอรุณฯ’ หรือ ‘วัดอรุณราชวราราม’ ปูชนียสถานสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ถูกกาลเวลาและค่านิยมเปลี่ยนให้เป็นจุดเช็คอินสำคัญของนักท่องเที่ยว รวมถึงเป็นสถานที่ถ่ายรูป ที่หากใครได้มาเยือนประเทศไทยก็ต้องมาแต่งชุดไทยถ่ายรูปคู่พระปรางค์ พร้อมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หวังให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่ดีก่อนกลับบ้าน

ย้อนสาเหตุที่ทำให้การแต่งชุดไทยถ่ายรูปคู่พระปรางค์ได้รับความนิยม ก็เป็นผลมาจากการที่ละคร ‘บุพเพสันนิวาส’ ถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปฉายยังประเทศจีน และประเทศเวียดนามจนดังเปรี้ยงปร้าง เกิดเป็นซอฟท์พาวเวอร์กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ ยูทูปเบอร์คนดัง อยากมาตามรอยใส่ชุดไทยถ่ายรูปเช็คอินคู่กับวัด โดยวัดอรุณฯ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งวัดที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเดินทางมาชมความงามของสถาปัตยกรรมและพระปรางค์โบราณอายุเก่าแก่ที่เคยได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ โดยคงศิลปะดั้งเดิมไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา

ซึ่งกระแสต่างๆ ที่เกิดขึ้นเปรียบเสมือนแสงสว่างให้กับเศรษฐกิจ แผ่เป็นอานิสงส์ที่ดีให้บรรดาพ่อค้าแม่ขายละแวกรอบข้าง เช่นเดียวกับร้าน ‘น้ำส้มชุดไทย’ ที่เจ้าของอย่างคุณสุนันท์ ฮ้อพันธ์ชาติ บอกเล่าว่าก่อนจะมาเป็นร้านเช่าชุดไทย เธอประกอบอาชีพขายน้ำผลไม้ แต่เมื่อโควิด-19 ระบาดเต็มสูบ ลูกค้าหาย รายได้หด จนต้องปิดตัวลงอย่างจำยอม แต่แล้ววันหนึ่งก็เล็งเห็นถึงกระแสละครบุพเพสันนิวาส ทำให้เธอตัดสินใจเปิดร้านเช่าชุดไทย สนนราคาเช่าชุดก็มีตั้งแต่ 200 บาท ไม่รวมค่าแต่งหน้าทำผม ไปจนถึงแบบฟูลออฟชันที่ 350 บาท นอกจากนี้ยังมีบริการช่างถ่ายภาพ ซึ่งจะพานักท่องเที่ยวที่สนใจตะลุยถ่ายตามจุดเช็คอินยอดนิยมตลอดระยะเวลา 1 ชั่วโมง

อีกหนึ่งไฮไลต์ที่กำลังเป็นไวรัลบนโลกออนไลน์อย่าง ‘ไอศกรีมกระเบื้อง 3 มิติ’ ก็ถือเป็นไอเท็มหลักที่ถ้ามาวัดอรุณฯ แล้วไม่ได้ชิม ถือว่าเชยสะบัด โดยเจ้าของไอเดียอย่างคุณศิริญญา หาญเผชิญโชค หญิงสาวผู้มีความหลงใหลในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทย เกิดความคิดที่อยากจะบอกต่อความงามเหล่านั้นสู่สายตาชาวโลก จึงทำการรังสรรค์ออกมาเป็นไอศกรีมลายกระเบื้องพระปรางค์วัดอรุณฯ ที่เรียกว่าเก็บดีเทลศิลปะลายไทยได้อย่างดีทุกจุด โดยไอศกรีมดังกล่าววางจำหน่ายผ่านร้าน ‘ARUN CAFÉ’ มีด้วยกัน 2 รสชาติ ได้แก่ รสชาไทย และรสกะทิอบควันเทียน สนนราคาอยู่ที่แท่งละ 89 บาท ซึ่งรายได้ของทางร้านจะถูกสมทบเข้ากองทุนสวัสดิการพระภิกษุสามเณร ด้านการศึกษา ค่ารักษาพยาบาล และสงเคราะห์สาธารณประโยชน์ต่างๆ เรียกได้ว่าเมื่ออุดหนุนแล้ว ลูกค้าก็อิ่มทั้งกายอิ่มทั้งใจกันเลยทีเดียว

นอกจากวัดอรุณฯ จะกลายมาเป็นจุดให้ชาวโซเชียลได้เช็คอินอวดความงดงามของสถาปัตยกรรมไทยแล้ว ยังมีจุดสักการะมากมายให้เหล่าสายมูได้มาขอโชค ขอสิ่งดีๆ กลับบ้านอย่างสบายใจได้อีกด้วย

นี่ก็ใกล้เทศกาลหยุดยาวอีกระลอก หากใครไม่รู้จะไปขอพรพระที่ไหน ก็ลองขับรถ นั่งเรือ มาชมความงดงามของปูชนียสถานเก่าแก่ พร้อมนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ชีวิตมีแต่ความสุขตลอดปีกันนะคะ