BTimes Weekend: EP.1 เปิดเส้นทางชีวิตสุดพีค กว่าจะเป็นร้านในตำนาน ‘หมูทอดเจ๊จง’

1011
0
Share:

July 24, 2021

เจาะเส้นทางชีวิตสุดพีคที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบของ ‘หมูทอดเจ๊จง’ เจ้าของร้านในตำนานชื่อดังที่ขับเคลื่อนความสำเร็จด้วยความพยายาม พร้อมลงมือทำอย่างเต็มกำลัง โดยปราศจากความกลัว

เมื่อชีวิตถูกบังคับให้ต้องพบเจอกับอุปสรรค แต่เธอกลับไม่ย่อท้อ กัดฟันพุ่งชนทุกบททดสอบ จนประสบความสำเร็จ พร้อมก้าวขึ้นสู่การเป็นนักธุรกิจเจ้าของร้านหมูทอดในตำนานชื่อดังอย่าง ‘หมูทอดเจ๊จง’

เจ๊จง หรือคุณจงใจ กิจแสวง เจ้าของร้าน หมูทอดเจ๊จง

เจ๊จง หรือคุณจงใจ กิจแสวง เล่าถึงวันวานสมัยยังเป็นเด็กว่าเธอและครอบครัวอาศัยอยู่ในชุมชนคลองเตย ด้วยความที่ครอบครัวทำงานหาเช้ากินค่ำ ได้รายได้แบบวันต่อวัน ส่งผลกระทบต่อเนื่องไปถึงเรื่องการศึกษา ทำให้เจ๊จงจำใจต้องออกจากการเรียนกลางคันตอนมัธยมศึกษาปีที่ 3 เพื่อทำงานช่วยครอบครัว ตั้งแต่เข็นรถขายน้ำแข็งใส รับจ้างแม่ค้าในตลาดคลองเตยขายรองเท้า ขายถุงหิ้วเล็กๆ ไปจนถึงการขายน้ำเต้าหู้ตามแฟลต โดยมีน้องคอยเป็นลูกมือในการหอบหิ้วข้าวของต่างๆ กระทั่งวันที่ตัดสินใจแต่งงานมีครอบครัว เจ๊จงก็ยังคงวนเวียนอยู่ในอาชีพค้าขาย เพราะแม่สามีประกอบอาชีพขายของชำ และมีห้องเช่าอยู่ 1 ห้อง จึงให้เจ๊จงอยู่บ้านเลี้ยงลูก พร้อมกับขายของชำร่วมด้วย

อยู่มาวันนึง ความคิดสุดบรรเจิดในการเพิ่มรายได้ก็ผุดขึ้น ประกอบกับช่วงนั้นแม่ของสามีได้ซื้อรถ 4 ล้อให้ จึงนำลังกระดาษในห้องมาบรรจุสินค้าเพื่อไปขายบริเวณหลังแฟลต ซึ่งในวันแรกที่เริ่มขายสามารถทำรายได้เพิ่มมากกว่า 3 พันบาท นับเป็นคืนที่ทำให้เธอนอนแทบไม่หลับ เพราะรู้สึกตื่นเต้น พร้อมกับตั้งคำถามว่าแล้วจะไปยังไงต่อ จึงเริ่มปรึกษาสามี จนได้ข้อสรุปว่าจะย้ายไปขายที่ฝั่งตรงข้ามแฟลต

หลังจากชีวิตวนเวียนกับการค้าขายหลังแฟลตมาได้สักระยะ ปรากฏว่าสินค้าที่มีในบ้านก็เริ่มหมด เธอจึงคิดหาทางรอดต่อไปด้วยการไปเดินตามห้างสรรพสินค้า เพื่อมองหาสินค้าประเภทใหม่ๆ ไม่ซ้ำกับที่เคยขายมาก่อน โดยเลือกซื้อจากสินค้าที่มีโปรโมชั่นลด แลก แจก แถม จากนั้นก็นำมาขายในราคาที่ถูกกว่าเจ้าอื่น แล้วหากำไรจากการขายของแถมแทน พร้อมเกิดไอเดียรับหิ้วสินค้าแบรนด์ที่ไม่มีในร้านแบบไม่บวกกำไร แต่เป็นการทำสัญญาใจกับลูกค้าที่ฝากหิ้วว่าจะต้องมาอุดหนุนสินค้าอื่นๆ ที่ร้านมีด้วย หัวคิดการค้ายังไม่หมดเท่านั้น เธอยังเปิดบริการรับชำระค่าน้ำ-ค่าไฟ-ค่าแฟลต โดยคิดค่าดำเนินการเพิ่มเพียง 10 บาท นับเป็นไอเดียสุดบรรเจิดที่น่าทึ่งมากในยุคนั้น แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลกกับเธอ เมื่อคนที่ไว้ใจกลับเทแชร์ พร้อมเชิดเงินที่ได้ลงทุนร่วมกัน จนเกิดเป็นความเสียหายก้อนโตที่เจ๊จงต้องแบกรับไว้เพียงคนเดียว ส่งผลให้เธอตัดสินใจกู้หนี้ยืมสินและนำบ้านไปจำนอง เพื่อมาใช้คืนให้กับผู้เสียหายรายอื่นๆ และตัดสินใจกลับไปอยู่บ้านหลังเดิมซึ่งเป็นบ้านที่เธอเคยอยู่สมัยเป็นเด็ก แล้วเดินหน้าสู้ชีวิตต่อไปด้วยการทำมาค้าขาย

หมูทอดเจ๊จง

หลังจากเหน็ดเหนื่อยมาเป็นเวลายาวนาน จุดเริ่มต้นของความโชคดีก็วิ่งเข้าหาเจ๊จง ขณะที่กำลังจะทานข้าวหมูทอด เจ๊จงได้มองเห็นช่องทางและโอกาสที่จะขยายธุรกิจร้านข้าวแกงให้เติบโต ด้วยการใช้เวลาที่เหลืออีกเกือบ 8 ชั่วโมงก่อนเข้านอนมาเพิ่มรายได้จากการขายหมูทอดสูตรพิเศษตามแบบฉบับของเจ๊จง และขายในราคาเริ่มต้นเพียง 10 บาท สุดท้ายความอดทนพยายามก็ออกดอกออกผลสร้างรายได้กลับมาอย่างมหาศาล ทำให้เจ๊จงมีเงินเก็บและสามารถนำไปชำระหนี้ได้จนหมด

BTimes