BTimes : ‘โตโยต้า’ สู่อนาคตใหม่บนเส้นทางองค์กรแห่งการขับเคลื่อน

March 31, 2020

‘โตโยต้า’ พาตัวเองก้าวข้ามไปสู่การเป็น Mobility Company องค์กรแห่งการขับเคลื่อน สร้างความเป็น Better Ever ในทุกด้านให้กับผู้บริโภค

จะเห็นได้ว่าทุกวันนี้ประเทศไทยและทั่วโลกต้องเจอกับความเปลี่ยนแปลง และวิกฤตหลายด้าน จนทำให้ผู้ประกอบการทั้งรายเล็กและรายใหญ่เร่งหาทางเอาตัวรอด ไม่ว่าจะเป็นการปรับโมเดลธุรกิจ การขยายต่อยอดธุรกิจเดิม หรือแม้แต่การหยิบเอาเทคโนโลยีมาสร้างสรรค์เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ หรือวิธีอื่นๆ ที่สามารถทำให้ธุรกิจไปต่อได้ ไม่เว้นแม้แต่อุตสาหกรรมยานยนต์รายใหญ่อย่าง ‘โตโยต้า’ ที่เขาก็ขยับโมเดลธุรกิจขึ้นไปอีกขั้น เพื่อสร้างสิ่งดีๆ คืนกลับไปให้ผู้บริโภค

โตโยต้า เป็นบริษัทที่อยู่คู่คนไทยมาหลายทศวรรษ จนวันนึงได้ลุกขึ้นมาปรับโฉมพลิกประวัติศาสตร์ครั้งใหญ่ พาตัวเองก้าวข้ามการเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ สู่การเป็นองค์กรแห่งการขับเคลื่อน หรือ Mobility Company

คุณสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เล่าว่า โตโยต้าเป็นบริษัทที่มีประวัติยาวนานกว่า 58 ปี เมื่อมองย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นจากผู้นำเข้ารถยนต์ ก็ได้ปรับตัวเองมาเป็นผู้ผลิตภายในประเทศ เพื่อลดต้นทุน ทั้งยังมีระบบไฟแนนซ์ รองรับผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อแตกต่างกัน ให้สามารถจับต้องและมีโอกาสเป็นเจ้าของรถได้ ตลอดจนเปิดศูนย์บริการทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้รถ นอกจากนั้นโตโยต้าก็ยังได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค โดยได้นำศูนย์ Toyota Used Car หรือที่รู้จักกันในชื่อ Toyota Sure เข้ามาช่วยบริหารจัดการธุรกิจรถใช้แล้ว หรือรถมือ 2 เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้บริโภค

เพื่อให้สามารถตอบโจทย์และทำให้การเปลี่ยนแปลง จากการเป็นเพียงผู้ผลิต สู่การเป็น Mobility Company ส่งผลให้โตโยต้าต้องสร้างกลยุทธ์ เพื่อ Challenge ตัวเอง สร้างความตื่นตัวครั้งใหญ่ให้กับวงการธุรกิจยานยนต์ โดยกำหนดหลักการที่เรียกว่า CASE ขึ้นมา ซึ่งประกอบจาก 4 เรื่องใหญ่ ดังนี้

1. C หรือ Connected คือการเชื่อมโยง Big Data ระหว่างการเดินทางกับผู้บริโภค และธุรกิจรอบข้าง โดยโตโยต้าได้นำจุดแข็งของการเป็นธุรกิจเครือข่ายและพันธมิตร มาสร้างสรรค์สิ่งที่ดี เพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้น

2. A หรือ Autonomous คือยานยนต์ที่ขับเคลื่อนโดยอัตโนมัติ มีตั้งแต่ระดับน้อย หรือการช่วยขับเคลื่อนในบางขณะ ไปจนถึงระดับมาก คือการขับเคลื่อนอัตโนมัติเต็มรูปแบบ

3. S หรือ Sharing คือการแบ่งปันโมเดลธุรกิจการเดินทางระหว่างกัน

4. E หรือ Electrification คือการนำระบบไฟฟ้าเข้ามาใช้

โตโยต้ามุ่งเน้นที่จะเป็นศูนย์กลางการดูแล และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เป็น Ever Better ในทุกๆ ด้าน โดยนำเอาเทคโนโลยีมาประยุกต์สร้างสรรค์ให้เกิดเป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ทำให้รถดีขึ้นกว่าเดิม ภายใต้คอนเซปต์ Ever Better Cars พร้อมส่งมอบการบริการที่เป็นเลิศและกระจายอยู่ทั่วไทย ในคอนเซปต์ Every Better Services ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวไป จะประสานหลอมรวมไปสู่คอนเซปต์ Ever Better Life ทำให้ผู้บริโภคได้รับความสะดวกสบายที่ดีเยี่ยมมากขึ้น