บทพิสูจน์ความสำเร็จ ‘Shinkanzen Sushi’ คู่หูรุ่นใหม่ผู้ปั้นร้านซูชิขนาดเล็กจากทุนเริ่มต้น 2 แสน สู่เชนขนาดใหญ่ยอดขายกว่า 2,000 ล้าน
จากร้านซูชิเล็กๆ ที่เปิดร่วมกับเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยสู่การเติบแบบก้าวกระโดดไปจนถึงสาขาที่ 57 ภายในระยะเวลา 11 ปี ‘Shinkanzen Sushi’ ทำได้อย่างไร ตาม BTimes มาหาคำตอบกัน
คุณมิ้ง – ศุภณัฐ สัจจะรัตนกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะ ฟู้ด ซีเล็คชั่น กรุ๊ป จำกัด เล่าถึงจุดเริ่มต้นว่า ‘Shinkanzen Sushi’ เกิดขึ้นในช่วงที่กำลังเป็นนักศึกษา โดยทั้ง 2 คนได้ลงขันกันคนละ 100,000 บาท ลุยศึกษาตลาดพร้อมกับเปิดกิจการร้านซูชิเล็กๆ ขึ้น นำเอาหลักการตลาด 4P มาเป็นแกนในการสร้างบริการ เริ่มจากการเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพดีในราคาที่จับต้องได้ ต่อมาด้านสถานที่ก็ปักจุดยุทธศาสตร์เป็นหัวมุมถนนที่ไม่ว่าใครเดินผ่านก็ต้องมองเห็น ซึ่งจากการวางแผนมาอย่างดี ส่งผลให้ธุรกิจเติบโตจนสามารถขยายสาขาจากแห่งที่ 1 ตรง ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต สู่สาขาที่ 2 ม.กรุงเทพ และสาขาที่ 3 ม.เกษตร
หลังจากเปิดกิจการมาได้สักระยะ โจทย์สุดหินก็วิ่งเข้าหา เมื่อรายได้ที่เคยเป็นกอบเป็นกำ เริ่มซบเซา รายได้หดจาก 100% เหลือแค่ 30% คุณมิ้งและทีมจึงมองหาโอกาสใหม่ๆ ผ่านการขยายสาขาเข้าไปใกล้แหล่งชอปปิ้งมากขึ้น เริ่มจากที่แรกคือห้างยูเนียน มอลล์ และสยามสแควร์ ตามลำดับ ซึ่งสยามสแควร์ถือเป็นสาขาที่ทำให้ ‘Shinkanzen Sushi’ ดังระเบิดเป็นพลุแตก จนเข้าตายักษ์ห้างสรรพสินค้าของไทยอย่าง บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือ CRG จนปิดดีลลงทุนกว่า 500 ล้านบาท และทำให้ ‘Shinkanzen Sushi’ เข้าสู่ห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศได้ในที่สุด
กว่า 10 ปีที่ ‘Shinkanzen Sushi’ เดินทางผ่านร้อนผ่านหนาว ปั้นร้านซูชิเล็กๆ ตามหัวมุมมหาวิทยาลัย สู่ร้านซูชิขนาดใหญ่ที่มีกระจายตัวเสิร์ฟความอร่อยมากถึง 57 สาขา พร้อมแตกเมนูไปสู่อาหารญี่ปุ่นจานเดียว และของทานเล่นมากมาย
สเต็ปต่อไปที่คุณมิ้งวางไว้ คือการพัฒนาให้ ‘Shinkanzen Sushi’ ตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้ครบทุกมิติ จนสามารถขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในธุรกิจอาหารญี่ปุ่นในไทยในอนาคต
