BTimes : ‘Warrix’ เปลี่ยนและสร้างเกมส์ธุรกิจบนการตลาดดิจิทัลออนไลน์
Jan 23,2020
Warrix ปรับ-เปลี่ยนมุมมองธุรกิจ สร้างโอกาสการขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์
ปัจจุบันเทคโนโลยีและนวัตกรรมได้ถูกพัฒนาให้เข้ามามีบทบาทในการสร้างความสะดวกสบายแก่มนุษย์ สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ส่งผลให้ภาพรวมตลาด e-commerce ในประเทศไทย มีสัดส่วนการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องที่ 8-10% ต่อปี ทำให้เจ้าของธุรกิจทั้งรายเก่า-รายใหม่หันมาให้ความสนใจปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การขาย กระโดดเข้าสู่โลกออนไลน์เพิ่มขึ้น
“คุณพ่อสอนผมว่า การเริ่มต้นธุรกิจต้องไม่เดินตามคนอื่น คนอื่นเดินออก เราต้องเดินเข้า และมองจากสิ่งที่สะท้อนกลับมาหลายอย่าง”
คุณวิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล ผู้ก่อตั้งชุดกีฬาแบรนด์ไทย และเจ้าของลิขสิทธิ์เสื้อฟุตบอลทีมชาติไทยอย่างเป็นทางการ เล่าว่าเขารู้สึกมาไกลจากที่ฝันไว้ เพราะ WARRIX เริ่มต้นจากศูนย์ ในตอนนั้นแบรนด์อินเตอร์เองก็ถือครองสัดส่วนการตลาดเป็นอันดับต้น แบรนด์ไทยอื่นๆ ก็ทำมานานและทำไว้ได้ดีด้วย เพราะฉะนั้นจึงต้องวางกลยุทธ์ธุรกิจใหม่ ประยุกต์เข้ากับความรู้จากหลากหลายธุรกิจที่ผ่านมา โดยเรียกกลยุทธ์นี้ว่า Game Changer แต่ 2 ปีหลังพบว่าการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและสื่อส่งผลรุนแรงมาก ความรู้เดิมที่มียังไม่พอ จึงต้องอัพเดตความรู้ด้านเทคโนโลยี และปฏิวัติตัวเอง เพื่อสร้างยอดขายที่ดีขึ้นในอนาคต
ปีแรกที่เริ่มทำธุรกิจ 90% ของยอดขายมาจากการขายหน้าร้าน คุณวิศัลย์ได้ใช้กลยุทธ์ ‘ป่าล้อมเมือง’ เพื่อทำให้เกิดการยอมรับด้วยการทำการตลาดผ่านสโมสรฟุตบอลใหญ่ของจังหวัดโคราชและเชียงใหม่ ต่อมาในปีที่ 2 ได้ขยายตลาดเพิ่มขึ้นอีก 17 จังหวัด จุดพีคอยู่ตรงปีที่ 3 เพราะ Warrix ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เสื้อฟุตบอลทีมชาติไทย หลังจากนั้นได้เจาะประมูลทีมชาติของประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน เพื่อขยายธุรกิจให้เติบโตยิ่งขึ้น
“ผมได้เข้าคอร์สเรียน Digital Marketing 55 ชั่วโมง ก่อนทำการเซ็นอนุมัติงบประมาณ”
คุณวิศัลย์บอกว่าเขาเป็นคนที่เซ็นอนุมัติยาก จนมีลูกน้องคนนึงแนะนำว่าขอให้ทำความเข้าใจก่อนจะเซ็นอนุมัติงบประมาณ ทำให้ต้องลงเรียนคอร์ส Digital Marketing เพิ่ม 55 ชั่วโมง จากนั้นจึงทำการเซ็นอนุมัติ และเกิดความคิดว่าทำไมลูกน้องของบน้อย ทั้งที่ตอนแรกมองว่ามันเยอะมาก แม้จะเป็น CEO ก็ต้องอัพเดตความรู้ใหม่เสมอ เพราะความรู้ดิจิทัลไม่มีตรงกลาง ไม่รู้คือ 0 รู้คือ 1 เมื่อรู้ก็จะนำเครื่องมือเหล่านั้นมาประยุกต์ใช้ในการทำการตลาด สามารถเห็นผลทันที วัดแบบ Real-time ได้ นอกจากนั้นยังให้ความสำคัญกับการทำงานในทุกด้าน พร้อมลงมือทำเอง เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมกับธุรกิจ
ปัจจุบันให้ความสำคัญกับการขายออนไลน์เกือบ 100% โดยยอดขายออนไลน์ในปี 2019 มีสัดส่วน 10% จากทั้งหมด และเดือนพฤศจิกายนยอดขายทางออนไลน์สูงกว่าหน้าร้านมาก ในปี 2020 ตั้งเป้าไว้ว่าออนไลน์จะสามารถสร้างยอดขายได้ถึง 25% ไปจนกระทั่งเกินครึ่งจากยอดขายของทั้งหมดในอนาคต พร้อมทั้งจะนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ร่วมกับการทำงาน เพื่อให้เกิดความแม่นยำมากขึ้น
