มาเฟียแท็กซี่เมืองภูเก็ต ปัญหาเรื้อรังขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถแก้ไขได้
กลายเป็นประเด็นร้อนรับปีใหม่กันเลยทีเดียว สำหรับการท่องเที่ยวเมืองภูเก็ตบ้านเรา จากกรณีที่นายเฆวินทร์ พล ทายาทคนโตของหมอสุนิล ทันตแพทย์มหาเศรษฐีพันล้าน ที่เดินทางไปท่องเที่ยวยังจังหวัดภูเก็ต และได้อัดคลิปวิดีโอแสดงความไม่พอใจ หลังถูกแท็กซี่ที่ภูเก็ตเรียกค่าโดยสารถึง 600 บาท ซึ่งเจ้าตัวไม่โอเค จึงปฏิเสธการใช้บริการ เพราะมองว่าเป็นการเอาเปรียบนักท่องเที่ยว
ย้อนไปในวันเกิดเหตุ นายเฆวินทร์ได้เดินทางไปยังร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต ขณะที่กำลังจะกลับที่พักก็ได้กดแอปพลิเคชันเพื่อเรียกรถ โดยแอปฯ ดังกล่าวแสดงอัตราค่าโดยสารอยู่ที่ 168 บาท แต่หลังจากนั้นไม่นาน คนขับก็ได้ติดต่อกลับเพื่อขอให้ช่วยกดยกเลิก เพราะพื้นที่ที่ปักโลเคชั่นมา มีแท็กซี่คุมอยู่ จึงไม่อยากมีปัญหากับแท็กซี่เจ้าถิ่น ทางด้านนายเฆวินทร์จึงกดยกเลิก และเรียกใช้บริการแท็กซี่ละแวกนั้นแทน ภายหลังจากที่สอบถามราคาแท็กซี่ปรากฏว่า โดนเรียกไป 600 บาท ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่ารู้สึกไม่พอใจและพูดไปว่านี่คือการโกง เพราะแท็กซี่ไม่มีมิเตอร์ จากนั้นแท็กซี่ก็ได้โวยวายว่าตนนั้นไม่ได้โกง เพราะราคาแท็กซี่ไปป่าตองก็อยู่ที่ 600 บาทประมาณนี้ อีกทั้งพอนายเฆวินทร์จะโทรเรียกตำรวจ คนขับแท็กซี่ก็ได้ท้าทายบอกให้เรียกมาได้เลย
หลังจากที่เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็เกิดเป็นกระแสร้อนแรงในโลกออนไลน์จนทัวร์ลง ผู้คนต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่างๆ มากมายทั้งเชิงบวกและลบ โดยผู้ที่ไม่เห็นด้วยก็บอกว่าอัตราที่เรียกนั้นแพงเกินจริง และแท็กซี่ควรต้องกดมิเตอร์ เพื่อคิดราคาตามระยะทาง แต่ก็มีคนบางกลุ่มแสดงความคิดเห็นที่ค่อนข้างรุนแรง อาทิ คนภูเก็ตแท้ๆ ไม่ขอต้อนรับ ไอ้พวกนักท่องเที่ยวเรื่องมาก เงินแค่ 600 ยังบ่น เก็บไว้อมตอนตาย ภูเก็ตไม่ต้อนรับคนจน, 600 เป็นราคาปกติ ไม่อยากเสียเงินก็เดินเท้า บ้างก็ว่าเป็นลูกคนรวยแท้ๆ แต่ทำไม 600 ถึงจ่ายไม่ได้ ต่อมาทางด้านนายเฆวินทร์ก็ได้โพสต์ว่ารู้สึกเสียใจ ขอไม่กลับมาเที่ยวภูเก็ตอีกต่อไป ซึ่งปัจจุบัน ด้านนายจตุรงค์ แก้วกสิ ขนส่งจังหวัดภูเก็ต ได้รายงานข้อมูลการตรวจสอบข้อเท็จจริง ดังนี้
1. ค่าโดยสารแท็กซี่แนะนำ ตามประกาศจังหวัดภูเก็ตจากกมลาไปป่าตองกำหนดไว้ 400 บาท (นั่งได้ 4 คน) สามารถต่อรองราคาได้
2. กรณีการพิพาทข่มขู่ผู้โพสต์ และห้ามมิให้รถอื่นเข้ามารับผู้โดยสารผู้โพสต์ได้แจ้งความ สภ.กมลา ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ ตามคดีอาญาที่ 30/2656 และจะได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
3. สำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต จะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารเรียกใช้รถแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชัน Hello Phuket Service ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) แล้ว เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการเก็บค่าโดยสาร และป้องกันการเอาเปรียบผู้โดยสารต่อไป
มาเฟียแท็กซี่ปัญหาเรื้อรังที่ไม่เคยแก้ไขได้
ไม่ว่าจะผ่านไปกี่สิบปี “แท็กซี่ป้ายดำ” ก็ยังเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ให้บริการที่โดนนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนจังหวัดภูเก็ตร้องเรียนอยู่บ่อยครั้ง เรียกได้ว่าตั้งแต่ก้าวแรกที่่นักท่องเที่ยวเหยียบผืนแผ่นดินภูเก็ต แท็กซี่กลุ่มนี้ก็จะเริ่มปฏิบัติการทันที ไล่มาตั้งแต่พื้นที่สนามบิน โดยเรียกเก็บค่าโดยสารในอัตราแพงมหาโหด ทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนเกิดภาวะจำยอม เพราะต้องการโดยสารรถแท็กซี่เพื่อไปยังจุดหมายให้ไวที่สุด อีกทั้งนักท่องเที่ยวก็ไม่สามารถเรียกใช้บริการแอปพลิเคชันเรียกรถได้ โดยมาเฟียแท็กซี่เหล่านี้จะทำการขัดขวางทุกวิถีทาง และไม่ใช่เพียงแค่พื้นที่สนามบินเท่านั้น กลุ่มคนเหล่านี้ยังกระจายตัวอยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ หรือร้านอาหารดังๆ เพื่อรอดักผู้โดยสาร
พอเข้าช่วงโควิด-19 ระบาด ภูเก็ตถือเป็นจังหวัดที่ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก ทำให้ปัญหานี้ถูกพักไปสองปี เพราะนักท่องเที่ยวไม่สามารถมาเดินทางมาท่องเที่ยวได้ แต่หลังจากที่มีการเปิดเมืองเปิดประเทศ ปัญหาเหล่านี้ก็วนลูปกลับมาอีกครั้ง และดูเหมือนว่าจะไม่สามารถแก้ปัญหาแบบถอนรากถอนโคนได้ สุดท้ายก็สร้างความเดือดร้อนให้แก่นักท่องเที่ยว และทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของภูเก็ต กลายเป็นปัญหาเรื้อรังที่ทำยังไงก็ไม่สามารถแก้ไขได้
ปัญหาเหล่านี้ในมุมมองของคนภูเก็ตบางคน อาจจะไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะเคยชิน และคิดว่าราคาเหล่านี้เหมาะสม เนื่องจากเป็นอัตราที่ใช้กันมานาน แต่ในมุมมองของนักท่องเที่ยว สิ่งเหล่านี้ถือเป็นการเอาเปรียบ และทุกคนต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าค่าแท็กซี่ที่นี่นั้นแสนแพง ตอนนี้ก็ได้แต่จับตามองว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะจัดการกับปัญหาเหล่านี้อย่างไร ท้ายนี้ เชื่อเหลือเกินว่าคนไทยก็ยังไปท่องเที่ยวในภูเก็ตอยู่ เพราะที่นี่มีแหล่งท่องเที่ยวและทะเลที่สวยงาม โปรดอย่าให้คนบางกลุ่มทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกว่าภูเก็ตเป็นเมืองที่เอาเปรียบกันอีกเลย
