ยอดรายวันพุ่ง ยอดสะสมเกินล้าน จนประชาชนวอนขอการตรวจคัดกรองที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ขณะที่ประเทศไทยมียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมทะลุหลักล้าน อีกทั้งยอดผู้เสียชีวิตสะสมก็พุ่งเกือบ 9,000 ราย แต่ดูเหมือนว่านโยบายการแก้ปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการล็อกดาวน์ หรือการจัดการด้านสาธารณสุขก็ยังไม่สามารถคุม และแก้สถานการณ์ให้ดีขึ้นได้เลย ทำได้ดีที่สุดเพียงแค่รักษาระดับไม่ให้พุ่งสูงไปมากกว่านี้ แต่ประชาชนคนไทยก็ยังคงมีความหวังที่จะพาตัวเองก้าวผ่านความยากลำบากนี้ โดยที่ไม่ต้องสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน

จากรายงานการติดเชื้อโควิด-19 รายวันที่ ศบค. ประกาศ เชื่อว่าเกินกว่าครึ่งของผลการตรวจมาจากการตรวจแบบเร่งด่วน หรือ Antigen Test Kit (ATK) ซึ่งหลังจากที่กระทรวงสาธารณสุขได้อนุญาตให้ประชาชนสามารถตรวจคัดกรองโควิด-19 ได้ด้วยตัวเอง โดยการตรวจแบบ ATK นี้มีความสะดวก ง่าย และรวดเร็วกว่าการไปตรวจที่โรงพยาบาล ทำให้ประชนชนมีความตื่นตัวและซื้อหามาใช้กันอย่างแพร่หลาย ถึงแม้จะมีราคาสูงและหายากก็ตาม จนทำให้เกิดเสียงเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลให้เข้ามาช่วยควบคุมราคา หรือจัดหาชุดตรวจนี้ในราคาที่เหมาะสมเข้าถึงได้ง่าย เพราะราคาชุดตรวจ ATK ในปัจจุบันจำหน่ายอยู่ที่ชุดละประมาณ 200-300 บาท และเมื่อเทียบกับค่าแรงขั้นต่ำของประเทศไทยก็ดูเหมือนจะสวนทางกันอยู่ไม่น้อย

กระทั่งล่าสุดรัฐบาลมีการประกาศจัดหาชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) จำนวน 8.5 ล้านชุด เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ซึ่งมอบหมายให้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดซื้อ และกำหนดเกณฑ์ราคาไว้ไม่เกินชุดละ 120 บาท ใช้วงเงินงบประมาณ 1,014 ล้านบาท โดยมีบริษัทออสท์แลนด์ แคปปิตอล เป็นบริษัทที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้เป็นผู้นำเข้าชุดตรวจ SARS -CoV-2 Antigen Rapid Test Kit ที่ผลิตโดยบริษัท เป่ยจิง เลอปู เมดิคอล เทคโนโลยี ของจีน เนื่องจากเสนอราคาต่ำสุดที่ชุดละ 70 บาท หรือคิดเป็นเงิน 600 ล้านบาท ทำให้สามารถประหยัดงบประมาณภาครัฐได้กว่า 400 ล้านบาท จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมเป็นวงกว้างถึงการตัดสินใจเลือกซื้อว่าควรเลือกจากคุณภาพไม่ใช่ราคาที่ถูกที่สุด เพราะสิ่งนี้มีชีวิตของประชาชนเป็นเดิมพัน หากชุดตรวจไม่มีคุณภาพก็จะได้ผลตรวจที่ไม่แม่นยำ ที่นอกจากจะเป็นการเสียเงินโดยใช่เหตุแล้ว อาจส่งผลต่อการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย

นอกจากนี้ชมรมแพทย์ชนบทได้มีความกังวล จนต้องออกมาทักท้วงเกี่ยวกับคุณภาพและมาตรฐาน ซึ่งมีการเผยแพร่ข้อมูลว่าชุดตรวจยี่ห้อดังกล่าวมีการระงับใช้ในสหรัฐอเมริกา เพราะมีแนวโน้มด้านความเสี่ยงในการให้ผลตรวจที่ผิดพลาด แต่ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขได้ออกแถลงเพื่อให้ความมั่นใจอีกครั้งว่า ชุดตรวจ ATK นี้ ได้ขึ้นทะเบียนผ่านเกณฑ์มาตรฐานของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทั้งยังผ่านการตรวจสอบจากห้องปฏิบัติการของคณะแพทยศาสตร์รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และประธานคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรมแล้ว แต่ถึงอย่างไรตอนนี้ก็ยังไม่มีบทสรุปที่แน่นอนสำหรับการจัดซื้อในครั้งนี้ โดยทั้งหมดยังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการพิจารณา

เข้าใจว่าการทำงานทุกอย่างย่อมมีปัญหา แต่หากทุกคนให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม มุ่งแก้ปัญหาให้ตรงจุดอย่างเที่ยงตรง รวดเร็ว และไม่รีรอ ก็อาจทำให้สถานการณ์ที่เป็นอยู่ดีขึ้นได้ และจากประสบการณ์ที่ผ่านมาที่ประเทศต้องเผชิญกับวิกฤตโรคร้ายโควิด-19 มานานเกือบ 2 ปี ทำให้ได้เรียนรู้ถึงปัญหาและความผิดพลาดต่างๆ มากมาย โดยเรียนรู้ว่าเรื่องบางเรื่องจำเป็นที่จะต้องลงมือทำทันที ดังนั้นการลงทุนกับสิ่งที่จำเป็นย่อมไม่มีคำว่าขาดทุน และอยากวิงวอนให้ผู้มีอำนาจจงอย่าลืมว่าทุกชีวิตของประชาชนมีค่า และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการสูญเสียจะไม่เพิ่มไปมากกว่านี้

ทีมงาน BTimes ยังยืนหยัดที่จะอยู่เคียงข้างและเป็นกำลังใจให้แฟนเพจทุกท่านเสมอมาและตลอดไป จนกว่าพวกเราจะผ่านบททดสอบนี้ไปได้ เราจะจับมือกันฝ่าฝันสงครามโรคระบาดไปด้วยกันนะคะ สู้ๆ ค่ะ