ท้ายที่สุดปศุสัตว์ก็ยอมจำนน พร้อมออกมายอมรับว่าเหตุที่หมูแพง มาจากการติดโรค ASF

1305
0
Share:

ท้ายที่สุดปศุสัตว์ก็ยอมจำนน พร้อมออกมายอมรับว่าเหตุที่ หมูแพง มาจากการติดโรค ASF

ในที่สุดกรมปศุสัตว์ก็ยอมรับเสียทีว่าที่หมูเนื้อแดงมีราคาเพิ่มสูงขึ้น เพราะเกิดการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African swine fever : ASF) ย้อนกลับไปเมื่อเดือนธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ราคาหมูพุ่งสูงขึ้นอย่างน่าตกใจมาอยู่ที่กิโลกรัมละ 200-250 บาท ทำให้ร้านอาหารหลายร้าน โดยส่วนใหญ่เป็นร้านบุฟเฟ่ต์ ออกประกาศขึ้นราคาอาหารกันอย่างถ้วนหน้า เพราะแบกรับต้นทุนไม่ไหว ซึ่งราคาหมูหนึ่งกิโลกรัมเกือบเท่าค่าแรงขั้นต่ำต่อหนึ่งวัน หากต้องเป็นแบบนี้อีกต่อไป คนไทยพังแน่

ว่ากันว่าโรค ASF ระบาดมาตั้งแต่ปี 2564 ส่งให้เนื้อหมูมีราคาแพง เรื่องนี้มีมูลจริงหรือไม่?

เมื่อเนื้อหมูมีราคาดีดสูงขึ้น ก็เรียกได้ว่าส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพและห่วงโซ่เครื่องอุปโภคบริโภคแทบทั้งระบบ ไล่มาตั้งแต่เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูรายเล็กที่ต้องแบกรับภาระหนี้สิน หรือพ่อค้าแม่ค้าที่ต้องก้มหน้ารับราคาส่งเนื้อหมูที่สูงลิบลิ่วจนต้องขึ้นราคาขายหน้าเขียง ทำให้ผู้บริโภคหลายคนต่างโบกมือลา หันหน้าไปรับประทานเนื้อสัตว์ชนิดอื่นแทน เพราะสู้ราคาขายที่แพงเกินค่าแรงไม่ไหว ซ้ำร้ายหมูยังมาเจอโรคระบาด ASF ทำให้ขาดตลาด จนพ่อค้าแม่ค้าบางร้านถึงกับต้องจำใจปิดชั่วคราวไปก่อน

ภายหลังจากเกิดปัญหา ทางรัฐบาลก็ได้ออกประกาศราชกิจจานุเบกษา ห้ามส่งออกหมูเป็นเวลา 3 เดือน ซึ่ง ณ ตอนนั้นคนไทยก็ยังไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัดว่าทำไมหมูถึงมีราคาแพงได้มากขนาดนี้ นี่มันเกิดอะไรขึ้น? เพราะเหตุผลที่ทางรัฐบาลได้ออกประกาศและอธิบายให้ประชาชนเข้าใจเกี่ยวกับราคาหมูที่พุ่งสูง มาจากการที่เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูหลายรายแบกรับต้นทุนการเลี้ยงไม่ไหว จึงลดจำนวนการเลี้ยงหมู ส่งผลให้ปริมาณการผลิตเนื้อลดลง สวนทางความต้องการเนื้อหมูในประเทศที่เพิ่มขึ้น ทำให้ราคาสูงขึ้นตาม

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2564 กรมปศุสัตว์ก็ได้ชี้แจงว่าไม่พบโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรในไทย ซึ่งคำชี้แจงดังกล่าวสวนทางกับความจริงที่เกษตรกรรับรู้ เพราะในกลุ่มผู้เลี้ยงหมูทราบกันดีว่าโรคระบาดที่ทำให้หมูตายจำนวนมากนั้นเป็นโรคอะไร ฟาร์มขนาดเล็กได้รับความเสียหายจากโรคระบาดดังกล่าวมากกว่าฟาร์มขนาดใหญ่ที่เลี้ยงหมูในระบบปิด ต่อมาไม่นานสำนักข่าวไทยรัฐพลัสได้เผยแพร่สำเนาเอกสารแจ้งผลการชันสูตรซากหมูที่ประทับตรามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระบุชัดเจนว่า ตัวอย่างซากสุกรที่ส่งตรวจนั้นป่วยเป็นโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ทำให้การชี้แจงจากกรมปศุสัตว์เป็นไปคนละทางกับข้อมูลที่ไทยรัฐพลัสได้รับจากแหล่งข่าว ซึ่งยืนยันว่าในประเทศไทยมีหมูป่วยเป็นโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร แต่กรมปศุสัตว์ไม่ยอมรับ ทั้งยังบอกว่าเป็นโรคเพิร์สแทน อย่างไรก็ตาม ทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ก็ได้รายงานผลตรวจตามจริงว่ามีการตรวจพบหมูป่วยเป็นโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร หรือ ASF

ที่สุด เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2565 นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ ก็ได้ออกมายอมรับแล้วว่าพบโรค ASF จริง โดยเจอเชื้อตัวอย่างในฟาร์มแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม ประเด็นหลังจากการแถลงทำให้ประชาชนตั้งคำถามกับกรมปศุสัตว์ว่าหมูมีโรคติดต่อ แต่ทำไมถึงไม่แจ้งเกษตรกร ทั้งๆ ที่หมูที่ส่งออกไปเวียดนามช่วงเดือนพฤษภาคมก็ถูกตีกลับมา เพราะเวียดนามได้ตรวจพบเชื้ออหิวาต์แอฟริกาในสุกรมีชีวิตที่นำเข้าจากประเทศไทย ทำให้ทางเวียดนามเตรียมที่จะออกประกาศระงับการนำเข้าสุกรจากไทย ทางด้านไต้หวันก็ตรวจพบเชื้อไวรัส ASF ปนเปื้อนในกุนเชียงเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2564 เจออีกครั้งในวันที่ 27 ธันวาคม 2564 และ 3 มกราคม 2565 จากผลิตภัณฑ์หมูแปรรูปนับว่าเป็นการพบเชื้อ 3 ครั้งติด ทำให้ไต้หวันประกาศห้ามนำเข้าหมูจากไทยโดยเด็ดขาดเช่นเดียวกัน

พอเจอเขาแบบนี้ ฝากฝั่งเกษตรกรก็ได้ตั้งคำถามว่าทำไปเพื่ออะไร มีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้หรือไม่? แล้วเรื่องปากท้องของประชาชนไม่สำคัญหรือ? ทำไมรู้แล้วทางปศุสัตว์ถึงไม่รีบแจ้ง หากแจ้งต้องจ่ายเงินชดเชยให้ใช่ไหม เพราะแบบนี้ใช่ไหมถึงต้องปกปิด แต่สุดท้ายเรื่องก็ปิดไม่ได้อยู่ดี และกว่าจะยอมรับก็แก้ปัญหาไม่ทันแล้ว ห่วงโซ่ทั้งระบบพังครืน เพราะหมูตายไปหลายหมื่น เกษตรกรรายย่อยล้ม ฟาร์มที่ใหญ่หน่อยระบบในฟาร์มก็พังเพราะไม่กล้าซื้อแม่พันธุ์ ทำให้ไม่สามารถผสมพันธุ์ลูกหมูได้ และถึงแม้ว่าจะระงับการส่งออกหมู 3 เดือนก็ไม่สามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้เลย น่าเศร้าไปกว่านั้นคือทางด้านเกษตรรายย่อยบางรายได้ออกมาเปิดเผยว่าเจอโรค ASF จนต้องขายหมูทิ้งที่กิโลกรัมละ 10 บาท ไม่งั้นก็ขายไม่ได้ หนักไปกว่านั้นบางคนแทบหมดตัว เพราะหมูที่ลงทุนเลี้ยงมาหลายพันตัวต้องล้มตายไปจนแทบหมดฟาร์ม…

เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่เพราะเป็นเรื่องปากท้องของประชาชน ซึ่งวิกฤตหมูแพงที่มาพร้อมกับโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ยังทำให้ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่สะเทือนมาแล้ว ถ้ารัฐบาลไม่รีบแก้ไขปัญหานี้รับรองว่าประเทศเราเจ็บหนักไปพร้อมกับโควิด-19 อย่างแน่นอน

BTimes