สถาบันวิจัยโชโกะ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า อาหารญี่ปุ่นประเภทซูชิซึ่งเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมอาหารระดับชาติและระดับโลกมาอย่างยาวนาน จนกระทั่งมีการทำธุรกิจร้านอาหารซูชิในหลายประเทศทั่วโลกรวมทั้งในประเทศญี่ปุ่นนั้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ธุรกิจร้านอาหารซูชิในประเทศญี่ปุ่นเผชิญปัญหา อุปสรรค ไปจนถึงวิกฤต ทำให้ในปี 2024 นี้ มีความเป็นไปได้สูงที่จำนวนธุรกิจร้านอาหารซูชิจะปิดตัวลงและล้มละลายมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากในเดือนมกราคมผ่านมา มีร้านอาหารซูชิจำนวน 5 แห่ง ประกาศปิดกิจการและล้มละลายภายในเดือนเดียว ส่งผลทำสถิติจำนวนธุรกิจร้านอาหารซูชิล้มละลายมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 3 ปี 5 เดือน หรือตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในญี่ปุ่น
ร้านอาหารซูชิจำนวน 5 แห่งที่ปิดกิจการและประกาศล้มละลายในเดือนแรกของปีนี้ในญี่ปุ่นนั้น พบว่ามีหนี้สินรวม 10 ล้านเยนขึ้นไป หรือกว่า 2.5 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 5 แห่งดังกล่าวเพิ่มขึ้น 400% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2023 สาเหตุจากมาตรการสนับสนุนทางการเงินในช่วงวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 สิ้นสุดลง ก่อนหน้านี้ มีมาตรการสนับสนุนร้านอาหารซูชิเพิ่มขึ้นเป็น 21 แห่งในปี 2023 ร้านซูชิที่มีขนาดเล็กและประสบปัญหาเนื่องจากการขาดแคลนแรงงาน ค่าจ้างแรงงานที่สูงมากขึ้นเพื่อดึงคนมาทำงานด้วย ความต้องการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ลดลง เนื่องจากความเคยชินในช่วงล็อกดาวน์ ร้านอาหารมากมายที่ลูกค้าไม่กลับมาเหมือนช่วงก่อนโรคโควิด-19
นอกจากนี้ ไม่เพียงแต่การแข่งขันกับร้านค้าในเครือรายใหญ่เท่านั้น แต่ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นยังสร้างแรงกดดันต่อผลกําไรของร้านอาหารซูชิ เนื่องจากต้นทุนในการซื้อ ปลา ข้าว เครื่องปรุง ค่าสาธารณูปโภค ฯลฯ ที่สูงขึ้นมาก และเป็นการยากที่จะยังคงขายราคาเดิมของ ร้านซูชิทั่วไป ดังนั้น ปัจจัยลบดังกล่าวอาจทำให้ร้านอาหารซูชิขนาดกลางและขนาดเล็กต้องปิดกิจการและล้มละลายมากกว่า 30 แห่งในปีนี้ ซึ่งเคยเกิดขึ้นในปี 2020 ผ่านมา
ทั้งนี้ สถาบันวิจัยโชโกะ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า นอกเหนือจากธุรกิจร้านอาหารซูชิจะปิดตัวและล้มละลายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแล้ว ในปี 2023 ผ่านไป ยังพบว่าธุรกิจร้านอาหารประเภทราเมง ต้องปิดกิจการและล้มละลายมากถึง 45 แห่ง ซึ่งพุ่งสูงถึง 2 เท่าจากในปี 2022