กกต. แจงถ้าสอบสวน ส.ส. ที่ถูกร้องไม่ทันกรอบ 60 วัน แล้วพบทุจริต สามารถเสนอศาลพิจารณา

186
0
Share:
กกต. แจงถ้าสอบสวน ส.ส. ที่ถูกร้องไม่ทันกรอบ 60 วัน แล้วพบทุจริต สามารถเสนอศาลพิจารณา

นายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการประกาศรับรองส.ส.ครบทั้ง 500 คน ว่าการที่ กกต. มีมติประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.เขต 400 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน รวมจำนวนแล้วครบ 500 คน เนื่องจากขณะนี้ขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนในสำนวนคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จภายในกรอบ 60 วัน จึงต้องประกาศรับรองผลไปก่อน

โดยการสอบสวนสำนวนคำร้องต่างๆ ยังดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ซึ่งภายใน 30 วันที่ กกต. ประกาศรับรอง แต่หากเห็นคนที่ได้รับการรับรองการเป็น ส.ส. กระทำการไม่สุจริต สามารถมาร้องเรียนต่อ กกต. เพื่อให้ตรวจสอบได้ หากสืบสวนแล้วเห็นว่ามีความผิดกระทำทุจริต จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอศาลพิจารณาต่อไป

ส่วนกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ส่งหนังสือถึง กกต.ให้ใช้ช่องทางตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานภาพ ส.ส. ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกลนั้น ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณา ขอให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการไต่สวนสืบสวนที่ กกต. ตั้งขึ้นเป็นผู้ดำเนินการก่อน ซึ่งกระบวนการตรวจสอบต้องมีพยานเอกสาร หลักฐานครบถ้วนและเพียงพอที่จะเสนอต่อศาลได้ หากไม่ครบถ้วนศาลอาจจะไม่รับไว้พิจารณาได้ ดังนั้น กกต. ต้องดำเนินการด้วยความละเอียดและรอบคอบ รวมทั้งให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะฝ่ายผู้ถูกร้อง

ขณะที่จะต้องเรียกหรือขอเพิ่มเติมภายหลังอีกหรือไม่ นายฐิติเชฏฐ์ กล่าวว่า ทุกอย่างต้องเรียกมา ไม่ว่าจะเป็นหลักฐานการประชุม บัญชีทรัพย์สินและหลักฐานการถือครองหุ้นของนายพิธา เพื่อประกอบการพิจารณาว่าหลักฐานตรงกันหรือไม่ แม้ขณะนี้จะมีข้อมูลบางส่วนแล้ว แต่เพื่อให้เกิดความชัดเจนและให้ความเป็นธรรมกับนายพิธา จำเป็นต้องตรวจสอบด้วยความละเอียดรอบคอบ