กกร. ปรับลด GDP ปีนี้เหลือ 1.5-2% จากเดิม 2-2.5%

627
0
Share:

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. และประธานในการประชุมคณะกรรมการร่วมเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 ในหลายประเทศทั่วโลก และยังไม่แน่นอนว่าจะคลี่คลายเมื่อใด เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจไทย
.
นอกจากนี้ยังกดดันให้ทุกธุรกิจทุกภาคส่วนหยุดชะงักลง และส่งผลกระทบทางอ้อม มายังภาคธุรกิจต่างๆ ให้มีการลดการจ้างงาน และ ปิดกิจการ อีกทั้งยังมีผลกระทบจากภัยแล้งที่รุนแรงด้วย
.
ที่สำคัญจากเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยในเดือนม.ค. 63 ที่เริ่มส่งสัญญาณการชะลอตัวลงในแทบทุกรายการที่ประชุม กกร. คาดว่า ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน 2563 เครื่องชี้ต่างๆ น่าจะยิ่งสะท้อนถึงสถานการณ์เศรษฐกิจที่ซบเซาลงอย่างต่อเนื่อง แต่ทิศทางเศรษฐกิจในระยะต่อไป คงขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 หากจำนวนผู้ติดเชื้อผ่านจุดสูงสุดได้ เหตุการณ์ต่างๆน่าจะทยอยคลี่คลายได้
.
ดังนั้นกกร. คาดหวังให้ภาครัฐออกมาตรการทั้งด้านการคลัง และด้านการเงินอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการลดภาระค่าใช้จ่าย และเติมสภาพคล่องให้กับธุรกิจต่างๆ พร้อมรับมือการแพร่ระบาดของโรคในไทย
.
อย่างไรก็ตามแม้ผลกระตุ้นจากมาตรการต่างๆของภาครัฐ จะช่วยประคองเศรษฐกิจได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่สามารถชดเชยผลกระทบจากไวรัสโควิด 19 ได้ โดยเฉพาะที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว และ ห่วงโซ่การผลิตอุตสาหกรรม กกร. จึงพิจารณาทบทวนประมาณการเศรษฐกิจในปี 2563 อีกครั้ง
.
จึงได้ทำการปรับลดอัตราการขยายตัวของจีดีพีในปี 2563 เหลือ 1.5-2.0% จากเดิม 2.0-2.5% แต่ยังคงประมาณการณ์ส่งออกตามเดิมที่หดตัว -2 ถึง 0% และ เงินเฟ้อ 0.8-1.5%
.
อย่างไรก็ตามในวันศุกร์นี้จะเป็นครั้งแรกที่ได้เข้าประชุมครม.เศรษฐกิจ และเชื่อว่าจะมีมาตรการออกมา ซึ่งหวังว่าจะเห็นเศรษฐกิจฟื้นตัวได้ในไตรมาส 4 ของปีนี้