กกร.ย้ำ 9 มี.ค. หน้ากากอนามัยต้องชิ้นละ 2.50 บาท เท่านั้น

944
0
Share:

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ หรือ กกร. กล่าวว่า หลังจากได้เชิญผู้แทนของโรงงานหน้ากากอนามัย และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาหารือถึงการบริหารจัดการหน้ากากอนามัยภายในประเทศได้ข้อสรุปดังนี้
.
หน้ากากที่เป็นที่ต้องการอยู่ขณะนี้ คือ หน้ากากสีเขียว มีโรงงานที่ผลิตได้ 11 โรงงาน มีกำลังการผลิตเดือนละ 36 ล้านชิ้น หรือ 1.2 ล้านชิ้นต่อวัน โดยก่อนหน้านี้ กระทรวงสาธารณสุขร่วมกันกรมการค้าภายใน ได้แบ่งหน้ากาก 600,000 ชิ้น จากโรงงานผู้ผลิตมาบริหารจัดการร่วมกัน ส่วนอีกครึ่งหนึ่งนั้นกระจายออกตลาดโดยโรงงานผู้ผลิตเอง ซึ่งอาจจะทำให้ราคาแตกต่างกันในตลาด
.
แต่นับจากนี้ไปหน้ากากที่ผลิตได้จากโรงงานทั้งหมด จะถูกนำมาบริหารโดยศูนย์กระจายหน้ากากอนามัย ตามมติครม. และคำสั่ง กกร.โดยมีกระทรวงสาธารณสุขบริหารร่วมกันกับกระทรวงพาณิชย์ โดยมีตัวแทน คือ รองเลขาฯอย. // องค์การเภสัชกรรม และผู้แทนจากโรงพยาบาลต่างๆ ศูนย์จึงมีหน้าที่บริหารจัดการหน้ากากทั้ง 1.2 ล้านชิ้นให้กระจายไปยังภาคส่าวนต่างๆ
.
โดยจะจัดสรรให้กระทรวงสาธารณสุข 700,000 ชิ้นโดยให้กระจายไปยังสถานพยาบาลทั้งหมดทั้งประเทศ ส่วนที่เหลือ 500,000 ชิ้น จะกระจายไปยังกลุ่มเสี่ยงอื่น รวมทั้งประชาชนทั้งประเทศ 60 ล้านคน เช่น ร้านขายยา // สายการบิน // ร้านค้าส่งค้าปลีกต่างๆ รวมถึงร้านธงฟ้า
.
สำหรับหน้ากากที่ผลิตโดยโรงงานทั้ง 11 โรงงาน ที่ยังคงมีเหลือในประเทศ ที่ขายในราคาแตกต่างกันไป จะให้เวลาผู้ประกอบการ 3 วันในการเคลียร์สต๊อก จากนั้นวันจันทร์ที่ 9 มี.ค.เป็นต้นไป จะต้องจำหน่ายในราคา 2.50 บาทต่อชิ้น โดยข้อกำหนดข้างต้นนี้ไม่รวมหน้ากากผ้า ที่ ครม.มีมติจัดสรรงบให้ 225 ล้านบาทเพื่อการผลิตโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือหน้ากากผ้าชนิดอื่นๆ ที่จะถูกผลิตในอนาคต ที่กระทรวงสาธารณสุขรับรองแล้วว่ากันเชื้อโรคได้
.
นอกจากนี้จะไม่อนุมติให้มีการส่งออกโดยเด็ดขาด เนื่องจากหน้ากากที่ผลิตได้ในประเทศทั้ง 36 ล้านชิ้น ก็ไม่เพียงพอกับการใข้ในประเทศอยู่แล้ว แต่หากสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงต่อไป