กพช.ชี้ ค่าไฟงวดเดือนพ.ค.-ส.ค.- 66 มีแนวโน้มลดลงต่ำกว่า 5 บาทเหลืออัตราเดียวทุกกลุ่ม

208
0
Share:
กพช.ชี้ ค่าไฟ งวดเดือนพ.ค.-ส.ค.- 66 มีแนวโน้มลดลงต่ำกว่า 5 บาทเหลืออัตราเดียวทุกกลุ่ม

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่ากากรระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ครั้งที่ 1/2566 เปิดเผยว่า เรื่องพลังงานมีความซับซ้อน แต่ยืนยันจะทำให้ประชาชนและทุกภาคส่วนได้รับประโยชน์มากที่สุด วันนี้จึงจำเป็นต้องดูแลกลุ่มเปราะบางก่อน

ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าสถานการณ์โลกส่งผลให้ราคาพลังงานสูงขึ้นและผันผวนอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องปรับมาตรการให้เหมาะสมและสอดคล้อง กับสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยเฉพาะเรื่องมาตรการช่วยเหลือด้านพลังงานให้แก่กลุ่มเปราะบาง ตนจึงได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยดูแลจัดสรรงบประมาณ 4,000 กว่าล้านบาท

นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า แนวโน้มการคำนวนค่าไฟฟ้างวด 2 (เดือนพ.ค -ส.ค. 2566) จะเป็นอัตราเดียวทั้งภาคครัวเรือนและเอกชน จากที่งวดแรกของปี2566 (ม.ค.-เม.ย. 2566) สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) พิจารณาอัตราค่าไฟฟ้าเป็น 2 อัตรา คือ ภาคครัวเรือนคิดค่าไฟฟ้าที่หน่วยละ 4.72 บาท และผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่น เช่น กลุ่มธุรกิจ คิดอัตราหน่วยละ 5.33 บาท

อย่างไรก็ตาม มาตรการที่ดูแลค่าไฟฟ้ากลุ่มครัวเรือนจากเดิมที่ให้ใช้ก๊าซในอ่าวไทยที่มีต้นทุนถูกกว่าเพื่อทำให้ราคาค่าไฟถูกกว่ากลุ่มอุตสาหกรรมนั้นเป็นนโยบายที่อนุมัติรอบเดือนม.ค.-เม.ย. 2566 ซึ่งอาจจะไม่มีต่อมาตรการแล้ว เนื่องราคาก๊าซธรรมชาติ LNG Spot ลดลงมากเหลือ 15-16 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียู จากที่เคยขึ้นไปสูงสุดระดีบ 40-47 ดอลลาร์ต่อล้านบีทียูเมื่อช่วงปลายปี 2565 เพราะสภาพอากาศในสหภาพยุโรปไม่ได้หนาวมากตามที่ประเมินไว้

ทั้งนี้ หากสถานการณ์ราคาก๊าซนำเข้ายังทรงตัวอยู่ระดับนี้ ก็มีโอกาสที่จะเห็นค่าเอฟทีงวด 2 มีแนวโน้มลดลงได้ แต่จะลดลงต่ำกว่า 5 บาทต่อหน่วยตามที่เอกชนเสนอมาหรือไม่ คงต้องพยากรณ์จากหลายปัจจัย ซึ่งขณะนี้ กกพ. อยู่ระหว่างนำรายละเอียดต้นทุนต่าง ๆ มาพยากรณ์อยู่ทั้งปัจจัยราคาก๊าซนำเข้า ปริมาณก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย เป็นต้น

ด้านนายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า กกพ. จะทำตัวเลขเปรียบเทียบเพื่อกำหนดค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) โดยจะทำอัตราเปรียบเทียบราว 3 อัตราเหมือนเช่นเคย เช่น การคำนวนราคาก๊าซนำเข้า อัตราแลกเปลี่ยน ปริมาณก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย รวมถึงเงินค้างจ่ายค่า Ft ให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ราว 170,000 ล้านบาท ที่ปัจจุบันจ่ายคืนให้กฟผ.หน่วยละ 22 สตางค์ เป็นต้น อย่างไรก็ตามแม้ว่าราคานำเข้าก๊าซจะลดลง แต่ก็อย่าลืมว่า บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) นำเข้ามาในช่วงที่มีราคาสูงยังคงเหลืออยู่ในระบบ ซึ่งกกพ. จะต้องดูว่ามีปริมาณมากน้อยแค่ไหน และจะจ่ายคืนค่า Ft ให้กฟผ.หน่วยละเท่าไหร่ ซึ่งจากที่เคยคิดหากคือหน่วยละ 33 สตางค์จะใช้เงินราวเดือนละ 20,000 ล้านบาท ดังนั้น จึงจะต้องมีการพิจาณาหลายๆด้านปประกอบกัน