กรมการค้าภายใน เร่งแก้ไขปัญหาผักชีและมะนาว แพงขึ้น สวนทางพืชผักชนิดอื่นที่ปรับราคาลง

338
0
Share:
กรมการค้าภายใน เร่งแก้ไขปัญหา ผักชี และ มะนาว แพงขึ้น สวนทางพืชผักชนิดอื่นที่ปรับราคาลง

นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมการค้าภายในได้มีการติดตามสถานการณ์ผักในตลาดทั้งระดับค้าส่งและค้าปลีกในส่วนกลางและภูมิภาคมาอย่างต่อเนื่อง และวันนี้ (7 ธันวาคม 2565) ได้ลงพื้นที่ ณ ตลาดสี่มุมเมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นตลาดขายส่งผักขนาดใหญ่ที่กระจายสินค้า ไปยังกรุงเทพฯ และปริมณฑล และตลาดยิ่งเจริญ กรุงเทพฯ ที่เป็นตลาดค้าปลีก พบว่า พืชผักส่วนใหญ่ราคาเคลื่อนไหวอยู่ในเกณฑ์ปกติ มีเพียงผักชีที่พบว่าวันนี้ราคาปรับตัวสูงขึ้นเป็น 260 – 270 บาท/กก. จาก 180 – 190 บ./กก. เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

สาเหตุเนื่องจากจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกที่สำคัญประสบปัญหาฝนตกชุก ผลผลิตได้รับความเสียหาย ใบเน่า ประกอบกับเกษตรกรเริ่มเพาะปลูกผักชีรุ่นใหม่ ภายหลังที่เกิดน้ำท่วมขังในจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้มีปริมาณผักชีเข้าสู่ตลาดลดลง ขณะที่ยังคงมีความต้องการต่อเนื่อง ทำให้ราคาผักชีปรับตัวสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสถานการณ์ ณ ตลาดสี่มุมเมือง พบว่า ราคาผักชีมีแนวโน้มปรับลดลงแล้ว เนื่องจากปริมาณผลผลิตเข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น คาดว่าผักชีรุ่นใหม่จะเข้าสู่ตลาดมากขึ้นในสัปดาห์หน้า และราคาในตลาดขายปลีกจะปรับตัวลดลงสอดคล้องกับราคาตลาดกลาง

ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดภาระค่าครองชีพให้แก่ผู้บริโภคและประชาชนทั่วไป กรมการค้าภายในจึงได้ดำเนินการเชื่อมโยงผลผลิตผักชีจากแหล่งผลิตไปจำหน่ายสู่ผู้บริโภคโดยตรง ในราคาประหยัด ประมาณขีดละ 20 บาท ผ่านช่องทางรถ Mobile พาณิชย์ ซึ่งจะวิ่งไปจำหน่าย ณ สถานที่ชุมชน กว่า 100 จุด ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ

ส่วนกรณีปรากฏข่าวว่าราคามะนาวที่ตลาดสดในจังหวัดขอนแก่นปรับตัวสูงขึ้น โดยจากข้อเท็จจริงแล้ว ราคามะนาวยังคงทรงตัวและราคามีความสมดุลกับความต้องการของตลาด จากที่ก่อนหน้านี้ผลผลิตมะนาวเข้าสู่ตลาดมาก ส่งผลให้มะนาวมีราคาตกต่ำและเกษตรกรได้รับความเดือดร้อน ซึ่งกรมการค้าภายใน ได้สั่งการให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดขอนแก่นตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า มีการปรับราคาตามที่เป็นข่าวหรือไม่ หากมีการปรับราคาที่ไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงก็จะเป็นความผิดในการฉวยโอกาสขึ้นราคาเกินสมควร ซึ่งจะมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ รวมทั้งหากไม่ปิดป้ายแสดงราคาการจำหน่ายสินค้า มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท

นอกจากนี้ กรมยังได้ติดตามสถานการณ์กะหล่ำปลีและผักกาดขาวปลีที่ก่อนหน้านี้มีราคาต่ำลง ทำให้เกษตรกรทางภาคเหนือได้รับความเดือดร้อนนั้น จากการลงพื้นที่วันนี้พบว่า ราคากระหล่ำปลีและผักกาดขาวปลีได้ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากมีการบริโภคเพิ่มมากขึ้น และคาดว่าในช่วงปีใหม่ เกษตรกรจะขายผลผลิตได้เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้ราคามีแนวโน้มปรับเข้าสู่สมดุล