จากกรณีร้องเรียนมัคคุเทศก์รายหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต นำนักท่องเที่ยวประมาณ 16 คน ร่วมจอยทัวร์ขึ้นเรือยอร์ชไปเกาะเฮ เพื่อไปชมพระอาทิตยตก จนทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวบนเรือมีจำนวนเกินกว่าที่กำหนดไว้ อีกทั้งมัคคุเทศก์ยังประพฤติตนไม่เหมาะสม ใช้คำพูดหยาบคายต่อนักท่องเที่ยว และถือขวดน้ำกระท่อมขณะปฏิบัติหน้าที่อีกด้วยนั้น
นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว ได้สั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่ คือ สำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สาขาภาคใต้ เขต 2 ประสานงานร่วมกับสถานีตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบหาข้อเท็จจริงพบว่า มัคคุเทศก์รายดังกล่าวได้รับใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย แต่ได้ดำเนินการจัดหาเรือ อาหาร และจัดการนำพานักท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ เอง ซึ่งเข้าข่ายการประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่สำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ในพื้นที่จึงเร่งสืบสวนหาหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการเอาผิดมัคคุเทศก์รายดังกล่าวในฐานความผิด “การประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ ในส่วนของความประพฤติและการปฏิบัติหน้าที่ของมัคคุเทศก์รายดังกล่าวที่ไม่เหมาะสม หากเข้าข่ายการกระทำผิดต่อระเบียบคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ว่าด้วยมาตรฐานการปฏิบัติหน้าที่ของมัคคุเทศก์ กรมการท่องเที่ยวจะดำเนินการปรับเป็นพินัยและพักใช้ใบอนุญาตมัคคุเทศก์รายนี้ทันที