กรมศุลกากรเตรียมเก็บภาษีนำเข้าพัสดุต่างประเทศราคาต่ำกว่า 1,500 บาท

1612
0
Share:

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร เผยว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ให้กรมศุลกากรเร่งศึกษาแนวทางลดผลกระทบต่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ของไทย จากกรณีที่กรมศุลกากรยกเว้นการจัดเก็บภาษีนำเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ให้กับสินค้าที่มีการส่งพัสดุทางไปรษณีย์จากต่างประเทศ ราคาไม่เกินชิ้นละ 1,500 บาท เพื่อสร้างความเป็นธรรมในการแข่งขันให้กับเอสเอ็มอี เพราะที่ผ่านมาสินค้าที่ผลิตจากเอสเอ็มอีไทยจะเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นอัตโนมัติ แต่สินค้าที่สั่งนำเข้ามาทางไปรษณีย์จากต่างประเทศ หากราคาไม่ถึงเกณฑ์ก็ได้รับการยกเว้นภาษีทั้งหมด

.

ซึ่งที่ผ่านมาพบว่ามีการสั่งสินค้านำเข้าจากต่างประเทศมากขึ้น โดยส่วนใหญ่ราคาไม่ถึง 1,500 บาท จึงได้รับการยกเว้นอากรนำเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังนั้นกรมศุลกากรกำลังศึกษาว่ามีช่องทางใดที่ทำได้บ้าง ในการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกัน และเนื่องจากเรื่องนี้ถือเป็นประเด็นสำคัญ จึงต้องศึกษาอย่างละเอียดก่อนจะดำเนินการ แต่ถ้าทำได้จะช่วยเหลือเอสเอ็มอีไทยได้มาก ขณะเดียวกันก็ต้องไม่ให้กระทบกับข้อตกลงระหว่างประเทศ โดยเบื้องต้นอาจใช้มาตรการที่ไม่ใช่ภาษี หรือใช้กฎหมายภายในประเทศ เช่น กฎหมายกรมสรรพากร หรือกฎหมายสรรสามิตมาใช้

.

ทั้งนี้ ปัจจุบันจำนวนพัสดุที่มีการสั่งเข้ามาจากต่างประเทศอยู่ที่ประมาณ 35 ล้านกล่องต่อปี คิดเป็นมูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้มีประมาณ 24 ล้านกล่อง ที่มีมูลค่าสินค้าต่ำกว่า 1,500 บาท ซึ่งหากมีการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม จะทำให้รัฐบาลมีรายได้เพิ่มประมาณ 700 ล้านบาท ซึ่งถือว่าไม่มากเมื่อเทียบกับกับรายได้ของกรมต่อปีที่เกือบ 1 แสนล้านบาท และจากการพิจารณาแนวทางเรียกเก็บภาษีสินค้าที่นำเข้าทางไปรษณีย์จากต่างประเทศที่มีราคาไม่เกิน 1,500 บาท จะช่วยให้รัฐบาลสามารถเพิ่มประสิทธิการเก็บภาษี ลดการรั่วไหล และปัญหาการทุจริต นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างโอกาสการแข่งขันให้ร้านค้า และผู้ผลิตสินค้าในไทย ให้มีโอกาสจำหน่ายสินค้าได้เพิ่มขึ้น