กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เผยผลสำรวจ ปชช. 87.7% ตื่นตัวป้องกันโควิด-19

482
0
Share:

Jan 16, 2021 กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เผยผลสำรวจประชาชน ตื่นตัวป้องกันตนเองจากโรคโควิด-19 สูงถึง 87.7%
.
นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เผยว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกับ องค์การอนามัยโลก สำนักงานภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และสำนักงานสถิติแห่งชาติ ทำการสำรวจพฤติกรรมตามมาตรการ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” โดยได้ส่งแบบสอบถามออนไลน์ให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) นำไปสอบถามติดตามการปฏิบัติตนของประชาชนในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
.
จากผลการสำรวจ เมื่อวันที่ 6-12 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา พบว่าประชาชนมีความตื่นตัวในเรื่องการป้องกันตนเองเพิ่มมากขึ้นถึง 87.7 เปอร์เซ็นต์ จาก 81.6 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะการใส่หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาเมื่อออกนอกบ้านหรืออยู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่สมาชิกในครอบครัว สูงขึ้นถึง 94.8 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาคือ ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ 90.9 เปอร์เซ็นต์ กินอาหารร้อน ใช้ช้อนกลางส่วนตัว 90.1 เปอร์เซ็นต์ การระวังไม่อยู่ใกล้คนอื่นในระยะน้อยกว่า 2 เมตร 82.7 เปอร์เซ็นต์ และระวังไม่เอามือจับหน้า จมูก ปาก 80.7 เปอร์เซ็นต์
.
ประชาชนยังหลีกเลี่ยงกิจกรรมการรวมกลุ่ม เดินทางไปยังสถานที่แออัดหรือจังหวัดที่มีการแพร่ระบาด และประชาชนส่วนใหญ่ยังมั่นใจต่อมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 จากหน่วยงานภาครัฐ เห็นด้วยกับการล็อกดาวน์จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อในชุมชน และการเพิ่มการตรวจเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มประชาชนทั่วไปให้มากขึ้น
.
นายแพทย์ธเรศฯ กล่าวต่อว่า กรม สบส.ได้กำชับให้ อสม. และอสต.ดำเนินการตามมาตรการอย่างเข้มข้นในเฝ้าระวัง การติดตาม และลงพื้นที่เคาะประตูบ้าน สื่อสารความเสี่ยงของการรับเชื้อแม้ผู้ติดเชื้อไม่มีอาการ เพื่อให้เกิดพฤติกรรมการใส่หน้ากากอนามัย 100 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้ง ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบวิธีการแจ้งเบาะแสการกระทำผิดทางสายด่วนของรัฐ อาทิ ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย 1567 หรือสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599