กระทิงขวิด! ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดดีดพุ่งทะยานกว่า 400 จุด

256
0
Share:

เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 32,812 จุด +416 จุด หรือ +1.29% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,155 จุด +63 จุด หรือ +1.56% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 12,668 จุด +319 จุด หรือ +2.59%

สาเหตุจากนักลงทุนคลายกังวลกับสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนแผ่นดินใหญ่ หลังจากนางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฏร สหรัฐอเมริกา เดินทางถึงกรุงไทเป ไต้หวัน โดยไม่มีเหตุการณ์ในด้านเลวร้ายเกิดขึ้น แม้รัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ประกาศความไม่พอใจอย่างรุนแรงกับเหตุการณ์ดังกล่าว นอกจากนี้ ดัชนีภาคบริการเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้นเหนือคาดหมาย รวมถึงผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา สาขาเซ็นต์หลุยส์ มองว่าเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาไม่ได้เกิดภาวะถดถอยแม้ในทางเทคนิคจะเกิดขึ้นก็ตาม สาเหตุจากการจ้างงานยังมีสูง และอัตราว่างงานต่ำเป็นประวัติการณ์

ตลาดซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 90.66 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -3.76 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.4% ทำสถิติราคาต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 96.78 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -3.76 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -3.76% ทำสถิติราคาต่ำสุดในรอบ 4 เดือน ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านไป ราคาน้ำมันดิบทั้ง 2 แห่งรายเดือนร่วงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปีผ่านมา หรือนับตั้งแต่ปี 2020 ขณะที่สำนักงานรอยเตอร์ส ปรับลดราคาน้ำมันดิบคาดการณ์เฉลี่ยทั้ง 2 แห่งในปี 2022 ลงมาอยู่ที่ 101.28 และ 105.75 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล นับเป็นการปรับลดครั้งแรกในรอบ 3 เดือนผ่านมา หรือตั้งแต่เมษายนที่ผ่านมา

สาเหตุจากกลุ่มโอเปกพลัสมีมติเพิ่มกำลังการผลิตอีกวันละ 100,000 บาร์เรล หรือเท่ากับเพิ่มขึ้น 0.1% ของปริมาณความต้องการใช้น้ำมันดิบทั่วโลก ขณะที่ปริมาณสำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นสูงถึง 4.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่คาดไว้อย่างมากที่ 600,000 บาร์เรล ก่อนการประชุมกลุ่มโอเปกพลัสนั้น ตัวแทนจาก 3 ชาติสมาชิกกลุ่มโอเปกพลัสเปิดเผยว่า โอเปกพลัสได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ภาวะน้ำมันดิบล้นตลาดโลกลงเล็กน้อยจากเดิมที่ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาเหลือ 800,000 บาร์เรลต่อวัน

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,776.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -6.70 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -0.7% ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน เมื่อสิ้นสุดเดือนกรกฎาคม พบว่าราคาทองคำยังคงลดลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน นับตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา ราคาทองคำร่วงลงกว่า 300 ดอลลาร์สหรัฐ

สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับแข็งค่ามากขึ้นอีก 0.7% อย่างต่อเนื่อง ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริการะยะสั้นในคืนผ่านมาเพิ่มสูงขึ้นในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ หลังจากผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา สาขาซานฟรานซิสโก แมรี่ ดาลี กล่าวว่า การปรับเพิ่มขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นอีก 0.5% ในการประชุมรอยต่อไปในช่วงวันที่ 20-21 กันยายนเป็นสิ่งที่เหมาะสม บนเงื่อนไขที่ว่าหากเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกามีการพัฒนาไปในแนวทางที่คาดไว้