กระเช้าเข้าแล้ว! ปิดเคสธนาคารยึดบ้านผิด ยอมจ่าย 2.2 ล้าน นัดมอบเช็ค 7 ต.ค.นี้

494
0
Share:
กระเช้าเข้าแล้ว! ปิดเคสธนาคาร ยึดบ้านผิดหลัง ยอมจ่าย 2.2 ล้าน นัดมอบเช็ค 7 ต.ค.นี้

จากกรณีธนาคารยึดบ้านผิดหลัง โดยที่เจ้าของบ้านทราบไม่ทราบเรื่อง จนเกิดเป็นกระแสช่วงวานนี้ (3 ตุลาคม 2565) ต่อมาทางธนาคารออมสินชี้แจงว่าเกิดจากความเข้าใจผิดของผู้รับเหมาก่อสร้าง และยินดีจ่ายค่าเสียหายตามจริงนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2565 ธนาคารออมสินได้แถลงพร้อมผู้เสียหาย โดยเจรจากับเจ้าของบ้านยอมจ่ายค่าเสียหาย 2.2 ล้านบาท ตามที่เรียกร้อง ส่วนทางผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความแล้ว

ด้านการลงโทษ ได้สั่งพักงาน 6 เดือน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและผู้รับเหมา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยนายรณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วย เจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นผู้เสียหาย และตัวแทนจากธนาคารออมสิน ได้แถลงข่าว โดยนายรณรงค์ กล่าวว่า วันนี้เรามีทางออกร่วมกัน ซึ่งเป็นทางออกที่ดีที่สุด โดยทางธนาคารรับผิดชอบเต็มที่ คืนของให้ทั้งหมด พร้อมกับเยียวยาให้จำนวน 2.2 ล้านบาท ตามที่ผู้เสียหายเรียกร้อง ซึ่งเป็นไปตามราคาของสิ่งของที่ทางผู้เสียหายลิสต์มา

เมื่อถามถึงข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น ทางธนาคารชี้แจงว่า ผิดพลาดจากรูปที่ส่งไป เนื่องจากรูปที่ส่งไปคล้ายกับบ้านหลังนี้พอดี เพราะเป็นบ้านในโครงการเดียวกัน โดยใช้ช่างเอาต์ซอร์ซภายนอกเข้าไป ซึ่งช่างเห็นว่าเป็นบ้านที่ไม่มีคนอยู่ จึงเข้าใจว่าเป็นบ้านหลังนี้ และระหว่างที่เข้าไปทำบ้านหลายวัน ก็ไม่มีใครมาทักท้วงว่าหลังนี้มีเจ้าของ

ทั้งนี้เราได้มีการตักเตือนทางผู้รับเหมาไปแล้ว ว่าต้องรอบคอบกว่านี้ โดยเจ้านี้เคยทำงานร่วมกับธนาคารมาแล้ว 3-4 ครั้ง แต่ตอนนี้ก็ให้พักงาน 6 เดือน เพื่อทบทวนตัวเอง ซึ่งการปักป้ายนั้นจะมี 2 ส่วน คือ ห้ามบุกรุก ผู้รับเหมาจะเป็นคนติด เพื่อไม่ให้ใครเข้าไประหว่างที่มีการซ่อม อีกส่วนจะเป็นป้ายที่แขวนว่าขาย ธนาคารเป็นผู้แขวน ซึ่งป้ายที่นำไปแขวนเขียนว่า บ้านเลขที่ 99/38 แต่ที่เรายึดคือ 99/44 และเมื่อเพื่อนบ้านแถวนั้นเห็นความผิดปกติที่ตัวเลข จึงโทรไปที่ธนาคาร และบอกว่าน่าจะผิดหลัง ธนาคารจึงรีบมาปลดป้ายเพื่อแก้ไข

สำหรับกรณีดังกล่าวก่อนหน้านี้ธนาคารออมสินได้ระบุว่า ธนาคารได้เข้าซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาด อันได้แก่ บ้านเลขที่ 99/44 หมู่บ้านวนาสิริพาร์ควิลล์ ต.ลาดหลุมแก้ว อ.เมือง จ.ปทุมธานี 12140 ในราคา 1.6 ล้านบาท และต่อมาธนาคารได้ว่าจ้างผู้รับเหมาภายนอก (outsource) เพื่อปรับปรุงบ้านที่ซื้อมาจากการขายทอดตลาด ให้มีสภาพดีพร้อมขาย โดยไม่มีการรื้อถอนบ้านแต่อย่างใด

ทั้งนี้ผู้รับเหมาภายนอกได้เข้าสำรวจพื้นที่ แต่เกิดความผิดพลาดเข้าปรับปรุงบ้านผิดหลัง ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งเกิดเนื่องมาจากบ้านหลังที่เข้าปรับปรุงและบ้านที่ธนาคารเข้าซื้อ ทั้งสองหลังมีลักษณะคล้ายกัน และต่างไม่มีป้ายเลขที่บ้าน ซึ่งปัจจุบันผู้รับเหมาภายนอกได้เข้าดำเนินการแล้วเสร็จ ทำให้บ้านหลังดังกล่าวมีสภาพเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยยะสำคัญ

โดยก่อนการเข้าปรับปรุงสภาพบ้านเพื่อรอการขาย ผู้รับเหมาภายนอกได้เคลื่อนย้ายสิ่งของภายในบ้านหลายรายการ และธนาคารนำไปเก็บรักษาไว้ ซึ่งหลังจากดำเนินการแล้วเสร็จ และพบว่าเป็นการปรับปรุงบ้านผิดหลัง ธนาคารได้ติดต่อเจ้าของบ้านอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมีการหารือร่วมกันเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2565