กรุงไทยลุ้นดิจิทัลวอลเล็ตเกิดจริงใช้งบเต็มวงเงิน 5 แสนล้านบาท คาดดันศก.ไทยปีหน้าโต 4%

179
0
Share:
กรุงไทยลุ้น ดิจิทัลวอลเล็ต เกิดจริงใช้งบเต็มวงเงิน 5 แสนล้านบาท คาดดันศก.ไทยปีหน้าโต 4%

นายพชรพจน์ นันทรามาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ Chief Economist ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ประเมินว่า ในปี 2567 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวประมาณ 3% ปรับลงจากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 3.6% แต่หากนโยบาย Digital Wallet ดำเนินการได้เต็มวงเงิน 5 แสนล้านบาท จะช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตได้ถึง 4%

ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยในปีหน้า ยังเผชิญความท้าทาย 3 ปัจจัย คือ การส่งออกฟื้นตัวได้จำกัด จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะสหรัฐฯ และยุโรป ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงยาวนาน ซึ่งเกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจชัดเจนขึ้นในปีหน้า ขณะที่เศรษฐกิจจีนจะเติบโตช้าลง และอาจขยายตัวไม่ถึง 5% จากปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์

นักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัวช้ากว่าคาด ส่วนหนึ่งมาจากเศรษฐกิจจีนยังมีความเปราะบาง และจีนมีมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อีกทั้งมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยจากการท่องเที่ยวในไทย ทำให้รวมแล้วจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีหน้า จะเข้ามาไทยประมาณ 32.9 ล้านคน

รวมถึงนโยบายการเงินของไทยที่ตึงตัว ภายหลังจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตลอดปี 2566 ส่งผลต่อต้นทุนการกู้ยืมของภาคธุรกิจและครัวเรือน นอกจากนี้ ยังต้องติดตามมาตรการปล่อยสินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible lending) ของ ธปท.ที่เน้นเรื่องวินัยการไม่สร้างหนี้เกินกำลัง โดยจะบังคับใช้ในเดือนม.ค.67 ซึ่งอาจกระทบต่อการเข้าถึงสินเชื่อในระบบของครัวเรือน

ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS มองว่า ภาคธุรกิจยังต้องจับตาและเตรียมรับมือกับกระแสโลกที่กำลังเปลี่ยนไป ทั้งความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจรุนแรงขึ้น และกระแสแยกขั้ว (Decoupling) ระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่เข้มข้นและกระจายออกไปในหลายมิติ ความไม่แน่นอนทางการเมืองหลังการเลือกตั้งสำคัญในหลายภูมิภาค การปรับทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จากการคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงไปสู่การเริ่มลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะสร้างความผันผวนทางการเงินในช่วงการเปลี่ยนผ่าน โดยเฉพาะกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ รวมถึงไทย

นอกจากนี้ หลายประเทศยังมีมาตรการเพื่อปรับเปลี่ยนไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำที่เด่นชัดมากขึ้น เช่น การปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน (CBAM) ของสหภาพยุโรป การจัดทำมาตรฐานการจัดกลุ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม (Taxonomy) ของไทย และกระแส digital transformation ของภาคธุรกิจจากการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้อย่างแพร่หลาย

สำหรับเศรษฐกิจไทยในปี 2566 ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS จะขยายตัวได้ 2.4% ต่ำกว่าประมาณการเดิมที่ 3%