กลับมาคึก! ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ทะยานปิดพุ่งกว่า 300 จุด ราคาน้ำมันดิบพุ่งเหนือ 82 ดอลลาร์ ราคาทองคำปิดหลุด 1,760 ดอลลาร์

312
0
Share:

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2564 (ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 34,314 จุด +311 จุด หรือ +0.92% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 4,345 จุด +45 จุด หรือ +1.05% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 14,433 จุด +178 จุด หรือ +1.25% สาเหตุจากหุ้นของกลุ่มสถาบันการเงินนำตลาดตลอดทั้งวัน ตามด้วยกลุ่มสายการบิน สายการเดินเรือ และกลุ่มเทคโนโลยีชื่อดังที่ก่อนหน้านี้ถูกเทขายตลอดเมื่อวานนี้ ได้แก่ เฟสบุ๊ก อเมซอน อัลฟาเบธ(กูเกิ้ล) และไมโครซอฟท์

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 78.93 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.31 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.7% ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 82.56 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.30 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.6% ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษทะเลเหนือ มีราคาสูงสุดในรอบ 3 ปี และพุ่งขึ้นกว่า 50% ตั้งแต่ต้นปีนี้

สาเหตุจากคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค กลุ่มโอเปกพลัส รายงานว่า คาดการณ์ปริมาณน้ำมันดิบตลาดโลกในปีนี้จะขาดหายไป 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน จะส่งผลให้ในปีหน้าเกิดภาวะน้ำมันดิบล้นตลาดโลก 1.4 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ กลุ่มโอเปกพลัสมีมติยึดตามข้อสรุปเดิมเมื่อเดือนกรกฎาคมของสมาชิกในการผลิตน้ำมันดิบในเดือนพฤศจิกายนวันละ 400,000 บาร์เรล ไปจนถึงเดือนเมษายน 2565 ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า ยังคงเป็นกำลังการผลิตน้ำมันดิบที่ไม่สามารถลดแรงกดดันของราคาที่พุ่งสูงได้ นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับแข็งค่าขึ้น

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,757.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -0.6% สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกระเตื้องแข็งค่าขึ้น สอดรับกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่เริ่มขยับเพิ่มขึ้น รับท่าทีของแบงก์ชาติสหรัฐที่ยืนยันยังไม่ยกเลิกมาตรการคิวอี