กลับใส่หน้ากาก! เยอรมนีเรียกร้องกลับใส่หน้ากาก สหรัฐต่ออายุสาธารณสุขฉุกเฉิน

รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ประเทศเยอรมนี นายคาร์ล เลาเทอแบค เปิดเผยว่า เตรียมเสนอให้รัฐบาลในแคว้นของเยอรมนีที่พบการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มสูงขึ้นให้กลับมาประกาศใช้กฎหมายบังคับสวมใส่หน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ และในระบบขนส่งมวลชน สาเหตุจากมีแนวโน้มที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับการกลับมาระบาดระลอกใหม่ของโรคโควิด-19 ในประเทศเยอรมนี โดยในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึงเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2565 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 145,213 ราย ทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 วันผ่านมา นอกจากนี้นับตั้งแต่วันที่ 6 มาถึงวันที่ 13 ตุลาคม มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เกินกว่าวันละ 100,000 ราย รวมติดเชื้อสะสมเป็น 34,517,247 ราย อยู่อันดับ 2 ในยุโรป และเป็นอันดับ 5 ของโลก ในขณะที่มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตรายใหม่จำนวน 176 ราย รวมเสียชีวิตสะสมเป็น 151,260 ราย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สหรัฐอเมริกา ซาเวียร์ เบคคาลา เปิดเผยว่า ได้มีมติต่ออายุประกาศคำสั่งสถานการณ์สาธารณสุขฉุกเฉินในสหรัฐอเมริกาออกไปอีก 90 วัน ดังนั้น มาตรการในการติดตาม ควบคุม และป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงความช่วยเหลือด้านการแพทย์และเวชภัณฑ์ยังคงดำเนินต่อไปในสหรัฐอเมริกา

ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านไป ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโจ ไบเดน กล่าวว่าสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกาได้จบสิ้นลงแล้ว ทำให้บรรดาผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุข นายแพทย์ แพทย์หญิง เจ้าหน้าที่โรคระบาด ล้วนออกมาตำหนิและวิพากษ์วิจารณ์คำพูดของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาอย่างล้นหลาม

ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโจ ไบเดน ได้ร้องขอต่อรัฐสภาสหรัฐอเมริกาในการอนุมัติงบประมาณเงินกองทุน 22,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 851,200 ล้านบาท ไว้ใช้สำหรับการกลับมาระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่

โดยในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึงเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2565 สหรัฐอเมริกาพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 28,545 ราย รวมติดเชื้อสะสมเป็น 98,779,943 ราย อยู่อันดับ 1 ของโลก ในขณะที่มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตรายใหม่จำนวน 246 ราย รวมเสียชีวิตสะสมเป็น 1,089,916 ราย เป็นอันดับ 1 ของโลก