กสิกร ส่ง 2 แม่ทัพนำทีมฝ่าวิกฤตโควิด-19 พร้อมคาดการณ์ GDP ไทย -5%

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย เผยว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ประกอบกับช่วงนี้สภาพเศรษฐกิจไทยได้อ่อนแอลง ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงคาดการณ์ถึงปัญหาคุณภาพสินเชื่อ ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงสำหรับธุรกิจธนาคาร ทำให้อาจต้องติดตามความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ กลุ่มสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อผู้ประกอบการทั้งขนาดกลางและขนาดย่อม ที่พึ่งพิงตลาดและกำลังซื้อในประเทศ รวมไปถึงที่พึ่งพิงตลาดส่งออก และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว พร้อมคาดว่าหากรัฐบาลสนับสนุนมาตรการเศรษฐกิจ จะเป็นส่วนสำคัญในการลดทอนผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ รวมถึงการปรับเกณฑ์และโครงสร้างหนี้ของธนาคารแห่งประเทศไทยจะช่วยลดภาระการกันสำรองของสถาบันการเงินได้ ส่งผลให้การทบทวนประมาณการเติบโตของเศรษฐกิจ หรือ GDP ในปี 2563 ที่คาดว่าจะหดตัว -5.0% จากสมมติฐานต่อไปนี้
.
1. สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในไทยและต่างประเทศ สามารถควบคุมจำนวนการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อได้ในภายในไตรมาสที่ 2
.
2. เศรษฐกิจโลกและไทยคาดว่า จะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2563
.
3. นโยบายการเงินและการคลังที่ทยอยออกมาแล้ว และที่กำลังจะตามมา จะช่วยประคองกลไกทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคการเงินให้สามารถดำเนินต่อไปได้
.
ด้านนางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย ได้กล่าวว่าการเข้ารับตำแหน่งในครั้งนี้มีความท้าทายเป็นอย่างมาก และเชื่อมั่นว่าธนาคารจะสามารถดำนินการได้อย่างต่อเนื่อง เพราะคณะผู้บริหารได้มีการกำหนดแผนยุทธศาสตร์และทิศทางธุรกิจให้สอดคล้องต่อเนื่องกันมาอยู่แล้ว ซึ่งจะดำเนินธุรกิจโดยเน้นการบริการไปถึงลูกค้ารายเล็กมากขึ้น ควบคู่ไปกับการจัดการด้านต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน รวมถึงยกระดับทักษะความสามารถพนักงาน ให้พร้อมรับมือกับภาวการณ์เปลี่ยนแปลงและเทคโนโลยีใหม่ๆ
.
นอกจากนั้นยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า โจทย์สำคัญอันดับแรกในขณะนี้ คือการพาองค์กรฝ่าวิกฤติการระบาดของโควิด-19 ไปให้ได้ โดยธนาคารกสิกรไทยได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าด้านสินเชื่อไปแล้วจำนวน 115,000 ราย เป็นยอดสินเชื่อ 124,000 ล้านบาท และปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อช่วยเหลือลูกค้าผู้ประกอบการและลูกค้าบุคคลที่ได้รับผลกระทบ พร้อมจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้พนักงานปลอดภัยและสามารถส่งมอบบริการไปยังลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ได้มากที่สุด และเตรียมความพร้อมเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ
.
ทั้งนี้ ทางธนาคารได้ดำเนินการอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมข้อมูลผลกระทบต่างๆ ทีเกิดขึ้น โดยจะมีการทบทวนแผนธุรกิจและเป้าหมายในปี 2563 ใหม่อย่างชัดเจน หลังจากเห็นผลประกอบการของไตรมาสแรก เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไป