การบินไทย โกยรายได้ไตรมาส 1 กว่า 3 หมื่นล้านบาท กำไรพุ่ง 1.2 หมื่นล้านบาท

191
0
Share:
การบินไทย โกย รายได้ ไตรมาส 1 กว่า 3 หมื่นล้านบาท กำไรพุ่ง 1.2 หมื่นล้านบาท

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าการบินไทยได้นำส่งงบการเงินของบริษัทฯ และบริษัทย่อย สำหรับงวดไตรมาส 1 ของปี 2566 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มี.ค.2566 โดยบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีเครื่องบินที่ใช้ทำการบินทั้งสิ้น 65 ลำ โดยมีอัตราการใช้ประโชชน์ของเครื่องบิน 12.3 ชั่วโมง มีปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) เพิ่มขึ้น 121.4% ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) เพิ่มขึ้น 469.2% อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Facio) เฉลี่ย 83.5% สูงกว่าปีก่อนซึ่งเฉลี่ยที่ 32.5% และมีจำนวนผู้โดยสารที่ทำการขนส่งรวมทั้งสิ้น 3.52 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 245.1% . ส่งผลให้ผลการดำเนินงานไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว ในไตรรมาสที่ 1 ปี 2566 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงิน 13,034 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 16,201 ล้านบาท (511.6%) โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 41,507 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 30,326 ล้านบาท (271.2%)

โดยสาเหตุหลักเกิดจากรายได้จากการขนส่งผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 30,502 ล้านบาท (681.5%) เนื่องจากในไตรมาสนี้ บริษัทฯ ให้บริการเที่ยวบินขนส่งผู้ไดยสารในตารางการบินฤดูหนาว ปี 2565 – 2566 รองรับการเดินทางของผู้ไดยสารสู่ 34 เส้นทางบินทั่วโลก ทั้งยุโรป ออสเตรเลีย และเอเชีย พร้อมเพิ่มความถี่เที่ยวบิน ในเส้นทางบินยอดนิยม โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่นและประเทศเกาหลีใต้

นอกจากนี้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 บริษัทฯ เริ่มกลับมาเปิดเส้นทางบินสู่สาธารณรัฐประชาชนจีน ประกอบกับมีรายได้จากการบริการอื่นๆ เพิ่มขึ้น 621 ล้านบาท (46.4%) จากเที่ยวบินลูกค้าที่เพิ่มขึ้น และมีค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 28,473 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 14,125 ล้านบาท (98.4%) สาเหตุหลักจากค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่แปรผันตามปริมาณการผลิตและ/หรือปริมาณการขนส่งเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าน้ำมันเครื่องบินที่เพิ่มสูงขึ้น จากราคาน้ำมันที่สูงกว่าปีก่อน 9.7% . นอกจากนี้ มีต้นทุนทางการเงิน (ซึ่งเป็นการรับรู้ต้นทุนทางการเงินตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9: TFRS 9) จำนวน 3,549 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 1,357 ล้านบาท (61.9%) บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว ส่วนใหญ่เกิดจากกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ กำไรจากการขายสินทรัพย์ และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดยในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 มีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว-สุทธิ เป็นรายได้รวม 2,987 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 945 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 12,523 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 15,766 ล้านบาท โดยเป็นกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 12,514 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 5.73 บาท ในขณะที่ปีก่อนขาดทุนต่อหุ้น 1.49 บาท โดยมี EBITDA หลังหักเงินสดจ่ายหนี้สินตามเงื่อนไขสัญญาเช่าเครื่องบิน รวมค่าเช่าเครื่องบินที่คำนวณจากการใช้เครื่องบินที่เกิดขึ้นจริง (Power by the Hour) เป็นกำไรจำนวน 14,054 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 15,431 ล้านบาท

ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีสินทรัพย์รวมจำนวน 208,445 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันที่ 31 ธันวาคม 2565 จำนวน 10,267 ล้านบาท (5.2%) หนี้สินรวมมีจำนวน 266,948 ล้านบาท ลดลง จาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 จำนวน 2,254 ล้านบาท (0.8%) ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และบริษัทย่อยติดลบจำนวน 58,503 ล้านบาท ติดลบลดลงจากวันที่ 31 ธันวาคม 2565 จำนวน 12,521 ล้านบาท