การสูญเสียหมอตา “กระต่าย” บุคลากรจักษุแพทย์ มีผลกระทบด้านเศรษฐกิจกว่า 880 ล้านบาท

751
0
Share:
หมอกระต่าย

เฟสบุ๊กชื่อว่า Tautology Thailand ซึ่งเป็นเพจนักวิทยาศาสตร์ที่รวบรวมข้อมูล เปิดเผยเหตุการณ์เศร้าที่ต้องสูญเสียพญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย ซึ่งเกิดอุบัติเหตุจากตำรวจขับจักรยานยนต์บิ๊กไบค์พุ่งชนขณะเดินข้ามทางม้าลาย ว่า มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจที่สามารถป้องกันได้ราว 881 ล้านบาท หากหมอกระต่ายมีชีวิต และสามารถช่วยผู้ป่วยไม่ให้สูญเสียการมองเห็นต่อไปได้

เพจดังกล่าวเปิดเผยข้อมูลในรายละเอียดมีดังนี้

จากข่าวการเสียชีวิตของ พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย ที่กำลังเป็นที่สนใจในสังคม พวกเราในฐานะนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลอยากจะชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของชีวิต และมูลค่าทางเศรษฐกิจที่คุณหมอสามารถมอบให้ได้กับสังคม เพื่อให้ทุกคนได้เห็นว่าการสูญเสียครั้งนี้ มีผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ตามมามากเพียงใด

จากมุมมองดังกล่าว ทางทีมงานได้เริ่มต้นจากการค้นหาข้อมูลมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการสูญเสียการมองเห็นของคนหนึ่งคน และนำมาคำนวนต่อยอดเพื่อหาความเสียหายทางเศรษฐกิจที่จักษุแพทย์ 1 คน สามารถป้องกันได้

เราได้แนวคิดของการคำนวนความเสียหายทางเศรษฐกิจของการสูญเสียการมองเห็นในประเทศไทย โดยการนำรายได้เฉลี่ยของประชากรต่อหัวของประเทศไทยในปี พ.ศ. 2563 ที่ 238,111.72 ต่อปี [3] มาใช้เพื่อคำนวนการสูญเสียรายได้ โดยคิดจากการอ้างอิงของตัวแปรต่าง ๆ ดังนี้

ประสิทธิภาพในการทำงานที่เหลือหลังจากการสูญเสียการมองเห็น โดยจะพิจารณาประสิทธิภาพในการทำงานที่เหลืออยู่ 25% สำหรับผู้ที่สูญเสียการมองเห็นที่ยังสามารถทำงานได้ และ ประสิทธิภาพในการทำงานที่เหลืออยู่ 0% สำหรับผู้ที่สูญเสียการมองเห็นที่ไม่สามารถทำงานได้ โดยมีอัตราส่วนของ ผู้ที่สูญเสียการมองเห็นที่ยังสามารถทำงานได้อยู่ที่ 20% และผู้ที่สูญเสียการมองเห็นที่ไม่สามารถทำงานได้อยู่ที่ 80% [2]
ระยะเวลาของผลกระทบต่อการสูญเสียการมองเห็น จะพิจารณาการสูญเสียการมองเห็นจะส่งผลกระทบต่อรายได้เป็นระยะเวลา 10 ปีในผู้ใหญ่ และส่งผลกระทบต่อรายได้เป็นระยะเวลา 33 ปีในเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี [2]

อัตราการรักษาหรือป้องกันการสูญเสียการมองเห็น จะอยู่ที่ 75% ในผู้ใหญ่และ 50% ในเด็ก [2]
สัดส่วนประชากรในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2563 พบว่าสัดส่วนของเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีอยู่ที่ 16.2% [6]

จำนวนประชากรทั้งหมดในประเทศไทยคือ 70 ล้านคน [5]
ความชุกของภาวะตาบอด (the prevalence of blindness) ที่ 0.6% [4]

จำนวนจักษุแพทย์ในประเทศไทยมีจำนวน 966 คน [1]

เราได้ทำการคำนวนผ่าน jupyter notebook โดยสามารถดูรายละเอียดการคำนวนได้ที่ https://github.com/…/economic%20burden%20of%20lossing… โดยจะคำนวน อัตราการลดลงของประสิทธิภาพการทำงานโดยเฉลี่ย จากนั้นนำมาคำนวนความสูญเสียทางเศรษฐกิจต่อคนในเด็กและผู้ใหญ่ และคำนวนเพื่อหาความสูญเสียทางเศรษฐกิจที่สามารถป้องกันได้จากการรักษาหรือการป้องกันไม่ให้เกิดการสูญเสียการมองเห็น และนำไปคูณกับความชุกของภาวะตาบอดในประเทศไทยและจำนวนประชากรเพื่อให้ได้ ความสูญเสียโดยเฉลี่ยที่สามารถป้องกันได้ (ต่อทั้งประเทศไทย) และนำมาหารด้วยจำนวนจักษุแพทย์ในประเทศไทยพบว่า จักษุแพทย์ 1 คน สามารถป้องกันความสูญเสียทางเศรษฐกิจโดยเฉลี่ยจากการรักษาหรือการป้องกันการสูญเสียการมองเห็นได้เป็นจำนวนเงิน 881 ล้านบาทต่อคน

ทั้งนี้ในการประเมินมูลค่าจากการจากไปของหมอกระต่ายนั้น เราพิจารณาเพียงแค่มูลค่าที่เกิดจากการป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยสูญเสียการมองเห็นซึ่งเป็นมูลค่าทางตรงเท่านั้น ยังไม่รวมมูลค่าทางอ้อม ไม่ว่าจะเป็นวุฒิการศึกษาเฉพาะทาง, มูลค่าในเชิงการลงทุน และยังไม่นับรวมสิ่งดีอื่น ๆ ที่หมอกระต่ายสามารถมอบไว้ให้กับสังคมได้หากไม่เสียชีวิต

สุดท้ายนี้ทางทีมงาน Tautology ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์การจากไปของ พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าอุบัติเหตุที่เกิดจากการทำผิดกฎหมาย รวมถึงอำนาจอันมิชอบธรรมในขบวนการยุติธรรมจะได้รับการแก้ไขและหมดไปในเร็ววัน