กุมภาดิ่ง! ยอดขายรถในไทยยังมุดน้ำต่อในเดือน ก.พ. ตกต่ำหนักกว่า -26% ตกต่อเนื่องเดือนที่ 2

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยรายงานยอดขายยานยนต์ภายในประเทศไทย พบว่า ยอดขายรถยนต์เดือนกุมภาพันธ์ 2567 มีจำนวน 52,843 คัน ลดลง -3.60% จากเดือนมกราคม 2567 และลดลง -26.15% จากเดือนเดียวกันในปี 2566 ประกอบด้วยยอดขายรถกระบะ และรถยนต์นั่งลดลง ตกต่ำมากถึง -43.2% และ -20.1% ตามลำดับ

ปัจจัยลบ คือการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อตามนโยบายการให้กู้แบบรับผิดชอบและหนี้ครัวเรือนสูง ด้านยอดขายรถ PPV ลดลงหนักมากถึง -47.6% จากการไปซื้อรถยนต์นั่งตรวจการณ์ที่เป็น HEV มากขึ้น เนื่องจากมีราคาถูกกว่า รวมทั้งเศรษฐกิจของประเทศยังเติบโตในระดับต่ำกว่าคาดการณ์ งบประมาณรายจ่ายปี 2567 ล่าช้าไปถึงเดือนเมษายน ทำให้การใช้จ่ายและการลงทุนของภาครัฐลดลง

รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 31,536 คัน เท่ากับ 59.68% ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว -9.14% ด้านรถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) จำนวน 13,360 คัน เท่ากับ 28% ของยอดขายทั้งหมด ซึ่งลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว -41.38%

รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) จำนวน 4,731 คัน เท่ากับ 95% ของยอดขายทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ 28.56% รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) จำนวน 255 คัน เท่ากับ 48% ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว -8.93% รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) จำนวน 13,190 คัน เท่ากับ 96% ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว +65.77%

รถกระบะมีจำนวน 15,535 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว -43.15% รถ PPV มีจำนวน 3,304 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว -47.61% รถบรรทุก 5-10 ตัน มีจำนวน 1,471 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว -28% และรถประเภทอื่น ๆ มีจำนวน 997 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว -14.42% 

เมื่อพิจารณาตั้งแต่เดือนมกราคม–กุมภาพันธ์ 2567 หรือ 2 เดือนแรกของปี 2567 พบว่า รถยนต์มียอดขาย 107,657 คัน ลดลงจากปี 2566 ในระยะเวลาเดียวกัน -21.49% แยกเป็น

รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 65,900 คัน เท่ากับ 61.21% ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว +0.60% รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 27,668 คัน เท่ากับ 70% ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ -37.38%

ขณะที่ รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) จำนวน 14,575 คัน เท่ากับ 54% ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ 111.97% รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) จำนวน 303 คัน เท่ากับ 28% ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว -48.03% รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) จำนวน 23,354 คัน เท่ากับ 69% ของยอดขายรถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว +68.46%

ส่วนรถกระบะมีจำนวน 30,399 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว -43.31% รถ PPV มีจำนวน 6,378 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว -45.87% รถบรรทุก 5-10 ตัน มีจำนวน 3,015 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว -16.94% และรถประเภทอื่น ๆ มีจำนวน 1,965 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว -24.13%