หยุดบริการรถไฟฟ้าสายสีชมพูทั้งสาย ทุกสถานีหลัง 12.00 น.วันนี้ เป็นครั้งแรก
บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) ประกาศแจ้งเมื่อวันนี้ 24 ธันวาคม 2023 ว่า เวลา 12.00 น. แจ้งปิดทดลองเดินรถไฟฟ้าทุกสถานีชั่วคราว เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ รางจ่ายกระแสไฟฟ้าร่วงหล่น เพื่อความปลอดภัยและการตรวจสอบหาสาเหตุโดยละเอียด หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป
สำหรับการหยุดบริการเดินรถไฟฟ้าสายสีชมพูทั้งสายและทุกสถานีที่มีผลตั้งแต่เวลา 12.00 น.เป็นต้นไป ถือว่าเป็นการยุติการให้บริการทดสอบเดินรถไฟฟ้าเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มเปิดทดสอบเดินรถให้ประชาชนนั่งฟรีเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2023 ผ่านมา โดยในวันนั้น นายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ไปเป็นประธานเปิดทดสอบการเดินรถไฟฟ้าสายสีชมพูโดยนั่งในขบวนรถพร้อมกับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย
การสั่งยกเลิกให้บริการดังกล่าวมีสาเหตุมาจาก วันนี้ 24 ธันวาคม 2023 เมื่อเวลาประมาณ 04.45 น. รางระบบไฟฟ้าของรถไฟฟ้าสายสีชมพูมีนบุรี-ปากเกร็ด ร่วงหล่นลงมาข้างล่างกระแทกทับรถยนต์ของประชาชนในช่องทางขวาของถนน ซึ่งรถยนต์จอดติดเกาะกลางเป็นแนวก่อสร้าง พบว่ารางที่หล่นลงมาเป็นระยะทางยาวจากจุดกลับรถตลาดกรมชลประทานไปจนถึงหน้าธนาคารกสิกรไทย ตั้งอยู่ใกล้สี่แยกแคราย
อย่างไรก็ตาม บริเวณพื้นที่ปากเกร็ดได้รับผลเสียหายหนักสุด เนื่องจากรางระบบไฟฟ้าดังกล่าวหล่นลงมาตกถึงพื้นถนนและกระแทกใส่รถยนต์ของประชาชน 3 คัน นอกจากนี้ เสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่น 1 ต้น เบื้องต้นไม่มีผู้บาดเจ็บ ดังนั้น มีความจำเป็นต้องปิดการจราจรบนถนนถึงเวลา 12.00 น. ก่อนเพื่อรอดูสถานการณ์ ขณะนี้ ประสานหน่วยงาน รถไฟฟ้าสายสีชมพู และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวงให้เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ และหาสาเหตุแท้จริง
บริเวณจุดเกิดเหตุ ตรวจพบรางเหล็กมีขนาดความกว้าง 4 นิ้ว มึความหนา 2 นิ้วของรถไฟฟ้าสายสีชมพู มีลักษณะเป็นเส้นยาว รางเหล็กดังกล่าวหลุดออกจากตัวยึดบนคานคอนกรีตที่ตัวรถไฟฟ้าใช้วิ่ง ทำให้ร่วงหล่นตกลงมากระแทกใส่รถเก๋งและรถกระบะที่จอดอยู่หน้าตลาดพังเสียหาย โดยเฉพาะรถเก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า สีบรอนซ์ รางเหล็กตกใส่หลังคาอย่างรุนแรง สางผลหลังคายุบ กระจกหน้าแตก กระจกมองข้างซ้ายหลุด สร้างความเสียหายหนัก
ทั้งนี้ รถไฟฟ้าสายสีชมพูเกิดปัญหาขัดข้องในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 แล้วภายใน 6 วันผ่านมาเท่านั้น โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2023 ที่ผ่านมา เนื่องจากรางนำไฟฟ้ามีปัญหาที่สถานีหลักสี่ ฝั่งมุ่งหน้าปลายทางมีนบุรี ซึ่งตอนนั้นใช้เวลาแก้ไข 17 นาที โดยรางนำไฟฟ้านี้เคยเป็นสาเหตุที่ทำให้รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ขัดข้องมาแล้วในช่วงทดลองเปิดบริการเช่นกัน
