ขับหรูจ่ายเพิ่ม! เบนซ์ประเทศไทยขึ้นราคาขายสูงคันละ 1.6 ล้านบาท รับสารพัดต้นทุนสูง

330
0
Share:
ขับหรูจ่ายเพิ่ม! เบนซ์ ประเทศไทย ขึ้นราคาขาย สูงคันละ 1.6 ล้านบาท รับสารพัดต้นทุนสูง

เมอร์เซเดส ประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้ประกาศปรับขึ้นราคาขายรถยนต์จำนวน 19 รุ่นซึ่งครอบคลุมทั้งรุ่นมาตรฐานและรุ่นชุดตกแต่งพิเศษ โดยราคาขายที่ปรับขึ้นมาใหม่มีผลตั้งแต่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นไป สาเหตุจากต้นทุนในการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบ ชิ้นส่วน และการขนส่งเพิ่มขึ้น

สำหรับรถเมอร์เซเดส เบนซ์ ทั้ง 19 รุ่นที่ประกาศปรับราคาขึ้น พบว่ามีราคาขายเพิ่มขึ้นแตกต่างกันในแต่ละรุ่น โดยรุ่นที่มีราคาปรับขึ้นมากที่สุดในการประกาศขึ้นราคาครั้งนี้ คือรุ่น AMG G63 รหัสตัวถัง W463 ปรับขึ้น 1.62 ล้านบาท ส่งผลให้ราคาขายใหม่เป็น 17.92 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 9.93% จากราคาเดิม 16,300,000 บาท

รุ่นที่มีการปรับขึ้นราคามากเป็นอันดับ 2 ในการประกาศครั้งนี้ คือ มายบัค GLS 600 4MATIC Premium รหัสตัวถัง X167 โดยปรับขึ้นคันละ 480,000 บาท หรือ 2.6% มีราคาขายใหม่ที่ 18.98 ล้านบาทจากราคาเดิมที่ 18,500,000 บาท

ส่วนรุ่นที่มีราคาขายปรับเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในการประกาศรอบนี้ มี 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น GLC 220d 4MATIC Coupé AMG Dynamic เป็นเครื่องยนตฺดีเซล รหัสตัวถัง C253 ขึ้นราคา 20,000 บาท หรือ 0.48% ส่งผลราคาใหม่อยู่ที่คันละ 4.18 ล้านบาทจากเดิมที่คันละ 4.16 ล้านบาท และรุ่น GLC 300e 4MATIC Coupé AMG Dynamic รหัสตัวถัง C253 ปรับขึ้น 20,000 บาทจากราคาเดิม 4.18 ล้านบาท มาเป็นราคาใหม่ 4.2 ล้านบาท

ในประเภทรุ่นซีดานยอดนิยม ได้แก่ C-Class มีการปรับราคาขาย ได้แก่ รุ่น C220d Avantgarde เครื่องยนต์ดีเซล ด้วยรหัสตัวถัง W206 ขึ้นราคาคันละ 140,000 บาท หรือขึ้น 5.40% ทำให้มีราคาขายใหม่เป็น 2.73 ล้านบาท และรุ่น C200 Coupé AMG Dynamic ด้วยรหัสตัวถัง W205 มีราคาขายใหม่ที่คันละ 3.56 ล้านบาท ปรับขึ้น 21,000 บาท หรือเพิ่มขึ้น 0.6%

ส่วนในประเภท E-Class ที่มีการขึ้นราคามากที่สุดในประเภทดังกล่าว คือรุ่น E200 Coupé AMG Dynamic รหัสตัวถัง C238 ปรับราคาขึ้นถึงคันละ 300,000 บาท หรือ 6.6% จากราคาเดิมคันละ 4.55 ล้านบาท ขึ้นเป็นคันละ 4.85 ล้านบาท ตามด้วยอีก 3 รุ่นที่มีรหัสตัวถัง W213 เดียวกัน คือ E 300 e AMG Dynamic ขึ้นราคา 121,000 บาท ส่งราคาขายใหม่เป็นคันละ 4.02 ล้านบาท ตามด้วยรุ่น E 300 e Avantgarde ขึ้นราคาคันละ 101,000 บาท ขึ้นเป็นราคาใหม่คันละ 3.40 ล้านบาท และรุ่น E 220 d AMG Sport เครื่องยนต์ดีเซล ขึ้นราคา 81,000 บาท ทำให้ราคาใหม่ขึ้นเป็น 3.65 ล้านบาท

นอกจากนี้ ในประเภท S-Class พบว่ามีการปรับราคาขายใหม่ในตัวถังรุ่น V223 ทั้ง 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น S 350 d Exclusive (V223) ในราคาใหม่เป็น 7.05 ล้านบาทจากเดิมคันละ 6.86 ล้านบาท โดยปรับขึ้นคันละ 190,000 บาท หรือ 2.7% ตามด้วยรุ่น S 580 e AMG Premium ขึ้ยราคาอีก 200,000 บาท หรือคันละ 2.7% ส่งผลจากราคาเดิมคันละ 7.38 ล้านบาท ขึ้นเป็น 7.58 ล้านบาท

ด้านรถประเภทเอสยูวี หรือรุ่น GL ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งเป็นรถเอสยูวีขนาดเล็กนั้น มีการปรับราคาขายใหม่เช่นกัน เริ่มจาก ในประเภท GLA ประกอบด้วย รุ่น AMG GLA 35 4MATIC ขึ้นราคาคันละ 70,000 บาท หรือขึ้น 2.1% ทำให้มีราคาขายใหม่เป็น 3.38 ล้านบาท ต่อมาเป็นรุ่น GLA 200 AMG Dynamic เพิ่มขึ้นคันละ 60,000 บาท หรือ 2.4% เป็นราคาขายใหม่ที่คันละ 2.54 ล้านบาท

ในรุ่นเอสยูวีระดับ C-Class หรือรุ่น GL ด้วยรหัสตัวถัง C253 ทั้ง 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น GLC 220d 4MATIC Coupé AMG Dynamic มีราคาขายใหม่เป็นคันละ 4.18 ล้านบาท ปรับขึ้นราคา 20,000 บาท หรือขึ้น 0.48% ตามด้วยรุ่น GLC 300e 4MATIC Coupé AMG Dynamic ขึ้นราคาคันบัตร 20,000 บาท จากราคาเดิม 4.18 ล้านบาท มาเป็นราคาใหม่ 4.2 ล้านบาท

ด้านรุ่นเอสยูวีระดับ E-Class ในตัวถัง V167 ทั้ง 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น GLE 300d 4MATIC AMG Dynamic (V167) มีราคาขายใหม่คันละ 5.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 80,000 บาท หรือขึ้นราคา 1.5% จากเดิมคันละ 5.35 ล้านบาท ตามด้วยรุ่น AMG GLE 53 4MATIC+ ขึ้นราคาคันละ 121,000 บาท หรือขึ้นคันละ 1.98% มาเป็นราคาใหม่ 6.22 ล้านบาท

ปิดท้ายกับรุ่นเอสยูวีระดับ S-Class ได้แก่ รุ่น GLS 350 d 4MATIC AMG Premium ขึ้นราคา 2.7% หรือคันละ 181,000 บาท ส่งผลให้ราคาขายใหม่เป็นคันละ 6.88 ล้านบาท