ข้าว-น้ำตาล-มัน-ปาล์มราคาขึ้นต่อ

844
0
Share:

นายสมเกียรติ กิมาวหา(กิ-มา-วะ-หา) ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรเดือนกันยายน ว่า สินค้าเกษตรที่จะมีราคาเพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% คาดราคาขายอยู่ที่ 7,975-8,081 บาท/ตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 1.15% – 2.5% เนื่องจากแหล่งผลิตข้าวนาปรังที่สำคัญ อาทิ จังหวัดสุพรรณบุรี พิษณุโลก และพิจิตร ยังคงประสบปัญหาภัยแล้งอยู่ ทำให้อุปทานข้าวลดลง
.
ด้านข้าวเปลือกหอมมะลิ คาดราคาอยู่ที่ 16,000-16,109 บาท/ตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.23%-0.91% เนื่องจากภาวะภัยแล้งในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ผลผลิตข้าวหอมมะลิได้รับความเสียหาย แต่ภาวะภัยแล้งในบริเวณแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิที่สำคัญในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาทิ จังหวัดอุบลราชธานี และร้อยเอ็ด ได้คลี่คลายลง จึงทำให้ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิปรับเพิ่มขึ้นไม่มากนัก
.
ส่วนข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว คาดว่าราคาอยู่ที่ 13,009-13,529 บาท/ตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 1.90% – 5.98% เนื่องจากภาวะภัยแล้งส่งผลให้ผลผลิตข้าวเหนียวมีปริมาณน้อยกว่าทุกปี และเป็นช่วงรอยต่อของฤดูกาลการผลิต ทำให้ข้าวเหนียวเก่าเหลือน้อย และข้าวเหนียวใหม่ยังไม่ถึงเวลาเก็บเกี่ยว ส่งผลให้ผู้ประกอบการโรงสี ผู้ประกอบการข้าวถุง และผู้ส่งออกข้าวเร่งซื้อข้าวเก็บไว้ในสต็อก
.
ขณะที่น้ำตาลทรายดิบตลาดนิวยอร์ก คาดราคาอยู่ที่ 12.16-12.63 เซนต์/ปอนด์ หรือ 8.22-8.54 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 4% – 7% ตามการเข้ามาซื้อน้ำตาลคืนของกลุ่มกองทุนและนักเก็งกำไร อันเป็นผลมาจากการที่หน่วยงานวิเคราะห์ของบราซิล ได้ปรับลดประมาณการผลผลิตน้ำตาลของบราซิลในปี 2562/2563 ลง 6.7% เหลือ 31.8 ล้านตัน จากเดิม 34.1 ล้านตัน
.
สำหรับมันสำปะหลัง คาดราคาอยู่ที่ 1.72 – 1.77 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 1.17% – 4.11% เนื่องจากผลผลิตมันสำปะหลังออกสู่ตลาดลดลง และผลจากการเกิดโรคระบาดไวรัสใบด่างมันสำปะหลัง
.
ท้ายสุดคือปาล์มน้ำมัน คาดราคาอยู่ที่ 2.35 – 2.43 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 1.73% – 5.19% เนื่องจากปริมาณผลผลิตปาล์มน้ำมันในเดือนกันยายนจะออกสู่ตลาดลดลง ประกอบกับนโยบายการเร่งดูดซับน้ำมันปาล์มเพื่อลดปริมาณสต็อกน้ำมันปาล์ม จะเป็นปัจจัยหนุนให้ทิศทางราคาปาล์มน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น