คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติมีมติพักหนี้กองทุนผู้สูงอายุ 1 ปี

720
0
Share:

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ มีความห่วงใยผู้สูงอายุซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19 ทั้งรายได้จากการประกอบอาชีพลดลง และลูกหลานอาจไม่สามารถช่วยเหลือทางการเงินได้เท่าเดิม จึงมีมติออกมาตรการพักชำระหนี้ลูกหนี้กองทุนผู้สูงอายุที่กู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพจากกองทุนผู้สูงอายุทุกคน ซึงมีประมาณ 4.1 หมื่นราย
.
โดยระยะเวลาพักชำระหนี้ 1 ปี เริ่มตั้งแต่ 1 เม.ย. 2563 – 31 มี.ค.2564 โดยให้ผู้กู้แสดงเจตจำนงในการขอพักหนี้โดยติดต่อกองทุนผู้สูงอายุ หรือ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ทุกจังหวัด หรือส่งจดหมายขอผ่อนผันการชำระหนี้ตามแบบฟอร์มที่กำหนด โดยให้ผู้ค้ำประกัน และพยาน 2 คน ลงนาม พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนพร้อมรับรองสำเนา และส่งกลับมายังสำนักงานพัฒนาสังคมฯจังหวัด หรือกองทุนผู้สูงอายุ ทั้งนี้นายจุรินทร์ได้กำชับให้การดำเนินการในเรื่องนี้ต้องเป็นไปอย่างสะดวกต่อผู้สูงอายุให้มากที่สุด
.
ส่วนเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 4.84ล้านคน ซึ่งไม่ใช่เบี้ยผู้สูงอายุแต่เป็นเงินสงเคราะห์ที่จ่ายเพิ่มเติมจากเบี้ยผู้สูงอายุ ซึ่งปัจจุบันมีงบประมาณไม่เพียงพอ ที่ประชุมได้ติดตามการแก้ไขปัญหาดังกล่าว และทราบว่ากรมกิจการผู้สูงอายุได้ประสานสำนักงบประมาณเพื่อขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีจัดสรรงบกลาง ประจำปี 2563 จำนวน 689 ล้านบาทแล้ว เพื่อจัดสรรให้ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนโครงการเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ระหว่างเดือนเม.ย-ก.ย. 2563
.
นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบมาตรการรองรับสังคมสูงวัยคนไทย โดยเสนอปรับปรุงพ.ร.บ.กองทุนการออมแห่งชาติ ให้เด็กต่ำกว่า15 ปีสามารถเป็นสมาชิกกองทุนได้ (พ่อแม่เป็นผู้ออมแทน) การกระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการบูรณาการและขับเคลื่อนงานพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน การยกระดับผู้ดูแลผู้สูงอายุมืออาชีพ จัดให้มีศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ ทุกอำเภอควบคู่กับบริการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ ซึ่งมาตรการทั้งหมดจะนำเสนอสู้คณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป