คนจีนหวาดกลัวท่องเที่ยวในอาเซียนพุ่ง ตอกย้ำด้วยหนังสุดฮิต No More Bets กว่า 80% ไม่มา

911
0
Share:
คน จีน หวาดกลัว ท่องเที่ยว ใน อาเซียน พุ่ง ตอกย้ำด้วยหนังสุดฮิต No More Bets กว่า 80% ไม่มา

สำนักข่าวเจแปน ไทมส์ (Japan Times) ซึ่งเป็นสำนักข่าวชื่อดังแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ในขณะนี้ภาพยนตร์เรื่อง “โน มอร์ เบ็ท” หรือ No More Bets ไม่เพียงเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมในประชาชนชาวจีนในประเทศด้วยการทำรายได้และขึ้นอันดับภาพยนตร์ทำรายได้แห่งปีนี้ ซึ่งทำเงินไปแล้ว 470 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 16,450 ล้านบาท แต่ยังสร้างกระแสความหวาดกลัวอย่างมากให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนแผ่นดินใหญ่เกี่ยวกับการเดินทางมาท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือประเทศในกลุ่มอาเซียนอีกด้วย

ภาพยนตร์ “โน มอร์ เบ็ท” นำเสนอประเด็นบนเรื่องราวของคนวัยหนุ่มสาวที่ตั้งความหวังจะมาทำงานหารายได้ และเก็บเงินให้มากที่สุดในต่างประเทศ แต่กลับโชคร้ายต้องกลายเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ รวมถึงเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซนเตอร์ ในที่สุดตัวละครในภาพยนตร์ดังกล่าวถูกจับตัวไปเป็นหนึ่งในสมาชิกในแก็งค์หลอกลวงทางออนไลน์ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ในประเทศเมียนมา

ความกังวลและความหวาดกลัวที่เกิดขึ้นในหมู่ชาวจีนเป็นวงกว้างหลังจากได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้กระทบต่อชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่กำลังวางแผนจะเดินทางมาท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งมักจะได้บินการรายงานข่าวของสื่อต่างประเทศบ่อยครั้งว่า ขบวนการค้ามนุษย์ที่กระทำผ่านการหลอกลวงทางโลกออนไลน์นั้น มักมีฐานที่ตั้งในประเทศที่อยู่ในกลุ่มอาเซียน การสร้างกระแสอย่างมากมายยังเกิดขึ้นจากผู้สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ ใช้สโลแกนในการโฆษณาว่า “ผู้ชม 1 คน เหยื่อฉ้อโกงลดน้อยลง 1 คน”

เจแปน ไทมส์ รายงานต่อไปว่าประเทศเมียนมาและกัมพูชา ล้วนตกเป็นข่าวพาดหัวใหญ่โตในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่บ่อยครั้งมากในช่วงหลายปีผ่านมา โดยเฉพาะเกี่ยวกับขบวนการค้ามนุษย์ที่เกิดขึ้นจากการหลอกลวงทางออนไลน์ สอดคล้องกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กล่าวเตือนว่าแนวโน้มดังกล่าวจะไม่หายไป ประชาชนอย่างน้อย 120,000 คนในเมียนมา และประมาณ 100,000 คนในกัมพูชา อาจถูกหลอกลวงทางออนไลน์ ขณะที่ประเทศสปป.ลาว ฟิลิปปินส์ และไทย เป็นประเทศสำคัญสำหรับการผ่านแดนขบวนการค้ามนุษย์ หรือเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับขบวนการค้ามนุษย์ที่มีอย่างน้อยกว่าหลายหมื่นคนต่อปี

เว่ยปั๋ว (Weibo) หรือเหว่ยโป่ว ซึ่งเป็นสื่อสังคมออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของจีนแผ่นดินใหญ่ เปิดเผยผลสำรวจพบว่าชาวจีนตอบแบบสอบถามจำนวน 48,000 ราย หรือ 89% จาก 54,000 ราย ไม่ต้องการไปเมียนมา เนื่องจากปัญหาด้านความปลอดภัย ที่สำคัญ พบว่า ชาวจีนผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่า 85% จะไม่พิจารณาเดินทางไปอาเซียน เหตุผลด้านความปลอดภัยเช่นกัน

ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่เผชิญกับการหลอกลวงบนโลกออนไลน์ในวงกว้างในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในปี 2565 คดีเกี่ยวกับไซเบอร์และการหลอกลวงบนออนไลน์ทีประมาณ 464,000 คดี โดยสามารถจับกุมหัวหน้าแก๊งค์และสมาชิกคนสำคัญของกลุ่มอาชญากรได้เพียง 351 รายเท่านั้น

ทั้งนี้ ทางการจีนแผ่นดินใหญ่ได้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงจาก ไทย สปป.ลาว และเมียนมา เพื่อร่วมกันปราบปรามการหลอกลวงบนออนไลน์อาชญากรรมการพนันที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ในเมียนมา โดยจัดตั้งศูนย์ประสานงานในจังหวัดเชียงใหม่ของประเทศไทย