คนอเมริกันกลับมามีงานทำกว่า 2 ล้านคน

กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า การจ้างงานคนอเมริกันนอกภาคการเกษตรในเดือนพ.ค.กลับเพิ่มขึ้น 2,509,000 คน ซึ่งเหนือความคาดหมายอย่างน่าประหลาดใจ โดยผลสำรวจสำนักข่าวรอยเตอร์ ประเมินว่าคนอเมริกันยังคงตกงานอีก 8 ล้านคนในเดือนพ.ค.ไม่เพียงเท่านั้น ในเดือนม.ย.ที่ผ่านมานั้น คนอเมริกันตกงานอย่างมากมายถึง 20,687,000 คน ซึ่งเป็นสถิติการตกงานที่มากที่สุดนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 สำหรับตัวเลลการจ้างงานคนอเมริกันนอกภาคการเกษตรที่เพิ่มขึ้น 2.5 ล้านคน ทำสถิติตัวเลขจ้างงานที่เพิ่มขึ้นใน 1 เดือนที่มากที่สุดในรอบอย่างน้อย 81 ปี หรือตั้งแต่ปี 1937 เป็นต้นมา โดยครั้งสุดท้ายที่มีการจ้างงานคนอเมริกันเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านคน เกิดขึ้นในเดือนกันยายน ปี 1983 หรือในรอบ 37 ปี
.
อัตราการว่างงานในสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนพฤษภาคมลดลงมาอยู่ที่ระดับ 13.3% ซึ่งดีขึ้นอย่างเหนือความคาดหมาย หากเปรียบเทียบกับผลสำรวจสำนักข่าวรอยเตอร์ที่คาดการณ์ว่าอัตราการว่างงานจะพุ่งสูงขึ้นถึงระดับ 19.8% ในเดือนพฤษภาคม ทั้งๆที่อัตราการว่างงานในเดือนเมษายนพุ่งสูงขึ้นแตะที่ระดับ 14.7%
.
สาเหตุที่ทำให้การจ้างงานคนอเมริกันกลับมาเพิ่มขึ้น พบว่า มาตรการทยอยเปิดภาคเศรษฐกิจ และผ่อนคลายการรักษาระยะห่างในสหรัฐที่เริ่มอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้เจ้าของธุรกิจกลับมาจ้างคนทำงานครั้งใหม่ โดยในธุรกิจพักผ่อนหย่อนใจ และสถาบันโรงพยาบาลกลับมาจ้างงานเพิ่มขึ้นถึงครึ่งหนึ่งของจำนวนทั้งหมด 2.5 ล้านคน
.
ร้านอาหารและบาร์ในสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านคน นอกจากนี้ ธุรกิจการก่อสร้างจ้างงานเพิ่มขึ้น 464,000 คน ซึ่งคิดเป็นครึ่งหนึ่งของจำนวนแรงงานก่อสร้างที่ถูกปลดออกในเดือนเมษายน การศึกษาและบริการสาธารณสุข จ้างงานเพิ่มขึ้น 424,000 คน ธุรกิจค้าปลีกจ้างงานเพิ่ม 368,000 คน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ปลดแรงงานในกลุ่มค้าปลีกอย่างหนาตาถึง 2.3 ล้านคนในเดือนเมษายน
.
ทั้งนี้ ธุรกิจการผลิตในโรงงานมีการจ้างงานเพิ่ม 225,000 คน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ปลดคนมากถึง 1.3 ล้านคน ตามด้วยธุรกิจภาคบริการอื่นๆ จ้างงานเพิ่ม 272,000 คน ในจำนวนนี้เป็นธุรกิจซักอบแห้งจ้างงานเพิ่ม 182,000 คน