ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2025 มีการจัดตั้งนิติบุคคลใหม่ในกรุงเทพฯ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจฟิตเนสจำนวน 41 บริษัท โดยกว่า 56% มีการให้บริการโยคะหรือพิลาทิส กระแสการออกกำลังกาย ที่เน้นการเสริมสร้างความแข็งแรง ปรับบุคลิกภาพ และฟื้นฟูร่างกาย เช่น พิลาทิสและโยคะ กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับข้อมูลจากการกีฬาแห่งประเทศไทยในปี 2021 ซึ่งเก็บจากผู้ใช้งานโซเชียลมีเดีย 48.59 ล้านคน พบว่า ‘พิลาทิส’ เป็นกิจกรรมที่ผู้คนคาดหวังจะออกกำลังกายมากเป็นอันดับ 3 โดยมีสัดส่วนถึง 29.3% รองจาก ฮูลาฮูปและเวทเทรนนิ่ง สะท้อนแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของตลาดจากฟิตเนสแบบดั้งเดิม สู่รูปแบบการออกกำลังกายแบบเฉพาะทางที่อยู่ในกระแสมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงของธุรกิจฟิตเนส มีดังนี้ การแข่งขันที่รุนแรงการเปลี่ยนแปลงเทรนด์อย่างรวดเร็ว ฟิตเนสขนาดเล็กแบบเฉพาะทาง (เช่น พิลาทิส สตูดิโอและ) กำลังเพิ่มจำนวนมากขึ้น เทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในยุคโซเชียลมีเดีย
เทรนด์แอปพลิเคชันออกกำลังกาย เทรนเนอร์ออนไลน์ และคอนเทนต์ฟรีบน YouTube / TikTok กำลังเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค หากฟิตเนสไม่มีเทคโนโลยีหรือบริการเสริมที่ดึงดูดเพียงพอ อาจถูกธุรกิจออกกำลังบนโซเชียลมีเดียแย่งส่วนแบ่งทางตลาดมากขึ้น
ทั้งนี้ ต้นทุนคงที่สูงและการพึ่งพาลูกค้าประจำ ค่าเช่าสถานที่ ค่าจ้างเทรนเนอร์ และค่าอุปกรณ์เป็นต้นทุนคงที่หลัก ทำให้ธุรกิจต้องพยายามรักษาจำนวนสมาชิก และเพิ่มสมาชิกอย่างต่อเนื่องเพื่อความอยู่รอด