คมนาคมชี้แจงวิ่ง 120 กม.ต่อชม.ได้แค่เส้นทางเดียว

1084
0
Share:

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้กฎกระทรวงกำหนดอัตราความเร็วของยานพาหนะบนทางหลวงแผ่นดินหรือทางหลวงชนบทที่กำหนด พ.ศ.2564 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว แต่ต้องรอให้ ผู้อำนวยการทางหลวงออกประกาศกำหนดให้ถนนเส้นไหน และช่วงใดใช้ความเร็วตามกฎกระทรวงก่อนจึงจะมีผลบังคับใช้เป็นรูปธรรม
.
เบื้องต้นกระทรวงคมนาคมจะนำร่องให้ใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 120 กิโลเมตร (กม.) ต่อชั่วโมง (ชม.) บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 (ถนนสายเอเชีย) ช่วงบริเวณหมวดทางหลวงบางปะอิน-ทางต่างระดับอ่างทอง กม. ที่ 4+100-50+000 ระยะทางประมาณ 50 กม.ภายในเดือน มี.ค.นี้ จากนั้นจะทยอยบนเส้นทางอื่นๆ ตั้งเป้าให้ใช้บนถนนทั่วประเทศได้ภายในปี 64
.
สำหรับวิธีการดูว่าถนนเส้นใดจะสามารถใช้ความเร็วที่ 120 กม.ต่อชม. ได้นั้นต่อไปจะมีการติดตั้งป้ายจราจรแจ้งความเร็ว และทำเส้นชะลอความเร็ว (Rubber Stick) โดยใช้สีเขียว แจ้งเตือนว่าจะเข้าเขตพื้นที่ที่จะสามารถใช้ความเร็ว 120 กม.ต่อชม.ในช่องทางขวาได้แล้ว จากนั้นเมื่อใกล้จะออกจากเขตพื้นที่ จะมีเส้นชะลอความเร็วสีเหลืองแจ้งเตือน เมื่อวิ่งผ่านจะต้องเริ่มชะลอความเร็ว และเมื่อเจอกับเส้นชะลอความเร็วสีแดงจะหมายถึงว่าได้พ้นเขตพื้นที่ที่จะใช้ความเร็ว 120 กม.ต่อชม.ได้แล้ว
.
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ได้มอบให้กรมทางหลวง (ทล.) และกรมทางหลวงชนบท (ทช.) นำข้อมูลผลการสำรวจเส้นทางถนนทั่วประเทศว่ามีเส้นทางใด และช่วงใดบ้างที่จะสามารถประกาศใช้ความเร็วตามกฎกระทรวงฉบับนี้ได้ มารายงานให้กระทรวงคมนาคมในวันที่ 12 มี.ค.64 ก่อนนำเข้าพิจารณาในการประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่
.
ในวันที่ 15 มี.ค. พิจารณาอีกครั้งว่าในระยะที่ 1 จะเริ่มให้ใช้ 120 กม.ต่อชม. เพิ่มเติมในเส้นทางใดได้อีก เบื้องต้นเท่าที่ทราบมีอยู่ประมาณ 1.2 หมื่นกม.ที่ค่อนข้างพร้อมแล้ว อย่างไรก็ตามสำหรับงบประมาณที่ใช้ในการติดตั้งเครื่องอำนวยการจราจรต่างๆ และอุปกรณ์ความปลอดภัยบนถนนที่ใช้ความเร็ว 120 กม.ต่อชม.ได้นั้น ได้มอบให้ ทล. และ ทช. ประสานกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เพื่อขอใช้เงินจากกองทุนความปลอดภัยทางถนน (กปถ.) มาใช้ดำเนินการต่อไป
.