คมนาคมเร่งพาณิชย์สอบตั้งบริษัท โฮปเวลล์

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการดำเนินการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทกรณีโฮปเวลล์ ว่า เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. ได้ทำหนังสือไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ให้ตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียนบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) เนื่องจากคณะทำงานของกระทรวงคมนาคม ตรวจสอบพบว่ามีการจดทะเบียนไม่ถูกต้องและยังได้ทำหนังสือไปถึงนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้ช่วยตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งด้วย
.
หากพบว่ามีการจดทะเบียนไม่ถูกต้องจริง ก็เป็นอำนาจของนายทะเบียน กระทรวงพาณิชย์ ที่จะต้องยกเลิกการจดทะเบียนบริษัท และหากยกเลิกการจดทะเบียน จะทำให้สัญญาร่วมทุนที่ทำไว้เป็นโมฆะทันที และไม่ต้องจ่ายเงินชดเชย
.
นอกจากนี้ยังพบหลักฐานอีกหลายประเด็น ทั้งทางแพ่ง และอาญา ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะต้องประสานไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ให้ช่วยตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนของการร่วมทุนที่พบว่าขัดกับมติคณะรัฐมนตรีนั้น เตรียมประสานไปยังกระทรวงการคลังให้ช่วยตรวจสอบข้อมูลให้ แต่ต้องรอผลการตรวจสอบของกระทรวงพาณิชย์ก่อน เพราะหากมีการยกเลิกจดทะเบียนบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) ก็อาจไม่ต้องดำเนินการฟ้องในส่วนอื่นเพิ่มเติม ซึ่งตามขั้นตอนจะใช้เวลาประมาณ 30 วัน
.
ด้านนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึง กรณีกรณีที่ นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายผู้รับมอบอำนาจจากกระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เดินทางมาที่ศาลปกครอง เพื่อยื่นฟ้องนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท และอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ที่รับจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ว่า ในฐานะที่กำกับดูแลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้สั่งการให้ฝ่ายกฎหมายของกรม ตรวจสอบรายละเอียดการขอจดตั้งบริษัทดังกล่าว และให้รายงานความคืบหน้ามายังตนให้เร็วที่สุด ซึ่งในเบื้องต้นทราบมาว่ามีการขอจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในปี 2533 หรือกว่า 30 ปีที่ผ่านมา
.
โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่สืบค้นข้อมูลอย่างรอบด้าน เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศไว้ให้ได้มากที่สุด โดยยืนยันว่าไม่มีความกดดันจากพรรคหรือฝ่ายการเมือง แต่ทำตามหน้าที่ ซึ่งทางพรรคฯก็ต้องการให้ตนทำงานอย่างรอบครอบและต้องอยู่บนความถูกต้อง
.
ส่วนของประเด็นที่กรมฯ มีการรับจดทะเบียนบริษัท อย่างผิดกฎหมายนั้น ต้องย้อนกับไปดูตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งกรณีนี้ บริษัท โฮปเวลล์ ถือเป็นบริษัทต่างด้าวที่ต้องการเข้ามาทำธุรกิจในไทย ซึ่งกรมฯ จะทำการตรวจสอบก่อน ตามที่มีการระบุมาว่าพบข้อพิรุธว่าการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทไม่ถูกต้อง เพราะไม่ได้มีการขออนุญาตตามพ.ร.บ. การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จึงมอบหมายให้ กองกฎหมาย และกองบริหารการประกอบธุรกิจ ของชาวต่างชาติ เป็นหน่วยงานในการตรวจสอบก่อนที่จะนำเสนอข้อมูลต่อประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป