ครม.ไฟเขียวปลดล็อกกระท่อม รอแก้กฤษฎีกา

“สมศักดิ์ เทพสุทิน” เผยครม .ไฟเขียวปลดล็อกกระท่อมแล้ว รอแก้กฤษฎีกาอีกเล็กน้อย พร้อมสั่งปิดช่องทางการใช้ผิดวัตถุประสงค์อย่างเด็ดขาด
.
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงงยุติธรรม เปิดเผยว่า แม้การปลดล็อกพืชกระท่อม จะผ่านคณะรัฐมนตรีแล้ว และอยู่ในขั้นตอนคณะกรรมการกฤษฎีกากำลังปรับแก้ แต่ติดช่วงสถานการณ์โควิด-19 จึงทำให้กฤษฎีกาทำงานได้ไม่เต็มที่
.
อีกทั้งยังมีข้อคิดเห็น 3 ประเด็นที่ต้องดำเนินการคือ 1.การป้องกันไม่ให้เยาวชนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพืชกระท่อม โดยจะใช้พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กปี 2546 มาควบคุม
.
2.การป้องกันไม่ให้มีการนำพืชกระท่อมไปเป็นส่วนผสมของสารเสพติด หรือเครื่องดื่มชูกำลัง เช่น 4 คูณ 100 ซึ่งถือว่าผิด หากจะนำไปเป็นผลิตภัณฑ์ต้องมีการขออนุญาตที่ อย.ก่อน
.
3.พืชกระท่อมส่งผลต่อการขับขี่ยานพาหนะหรือไม่ ซึ่งประเด็นนี้ ขอให้สบายใจได้ เพราะในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา สถิติบ่งชี้ว่า ยังไม่มีผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการขับขี่ยานพาหนะจากพืชกระท่อมเลยแม้แต่คดีเดียว
.
ส่วนการควบคุมหากปลดพืชกระท่อมพ้นบัญชียาเสพติดแล้วไม่ให้นำไปใช้ในทางที่ผิด ใน พ.ร.บ.ยาเสพติด ปี 2522 มาตรา 58/2 ในขั้นตอนของการมีและใช้ ซึ่งป.ป.ส.ได้ทำการสำรวจข้อมูลส่งเรื่องไปยัง อย. เพื่อกำหนดวิธีการใช้อย่างไร ไม่ให้ผิดวัตถุประสงค์ คือ ให้นำมาเคี้ยวอย่างเดียว ห้ามทำ 3 คูณ 100 หรือ 4 คูณ100 ซึ่งถ้าเคี้ยวอย่างเดียวจะเป็นยาขยัน แก้ปวดท้อง แก้ปวดเมื่อย เป็นการเสพแบบวิถีไทย
.
โดยสรรพคุณของพืชกระท่อมมีสาร 2 ชนิด ประกอบด้วย ไมทราไจนีน ช่วยระงับความเจ็บปวดได้ดีกว่ามอร์ฟีน ในประเทศมหาอำนาจผลิตมอร์ฟีนขายสร้างรายได้ปีละเกือบ 5 แสนล้านบาท ส่วนสารอีกชนิด คือ เซเว่นไฮดรอกซี เป็นยาชูกำลัง ถ้าทุกคนหันมาผลิตต้องใช้อีกเท่าไร ดังนั้น ต้องศึกษาเพิ่มเติม ซึ่งจะเปิดให้มหาวิทยาลัยศึกษาวิจัยพืชกระท่อมเตรียมความพร้อม เพื่อสำรวจกลไกตลาด