ครูอยากเลิกสอนวิชาลูกเสือ-เนตรนารี-ยุวกาชาด-บำเพ็ญประโยชน์ ครูไม่ชอบห้องน้ำมากสุด

233
0
Share:
ครู อยากเลิกสอนวิชาลูกเสือ-เนตรนารี-ยุวกาชาด-บำเพ็ญประโยชน์ ครูไม่ชอบห้องน้ำมากสุด

Rocket Media Lab ร่วมกับมูลนิธิแพธทูเฮลท์ จัดทำแบบสอบถามครูผู้สอนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – มัธยมศึกษาปีที่ 6 ทั่วประเทศ ในช่วงวันที่ 9 – 15 มกราคม 2567 เพื่อสำรวจความคิดเห็นในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบการศึกษา พบว่า กฎของโรงเรียนที่ครูไม่ชอบมากที่สุด คือครูไม่ชอบการแต่งกายประจำวันมากที่สุด 74 คน คิดเป็น 24.42% อันดับ 2 การเช็คชื่อก่อนเข้าแถว และการใส่กระโปรง (ยกเว้นครูพละ) 63 คน คิดเป็น 20.79% อันดับ 3 การแต่งกายผ้าไทย 47 คน คิดเป็น 15.51% และอันดับ 4 อื่นๆ 56 คน คิดเป็น 18.48% เช่น การเข้าเวรเสาร์-อาทิตย์ การสแกนนิ้วหลังเลิกเรียน และมีจำนวนหนึ่งที่ตอบว่าไม่มีปัญหากับกฎระเบียบ สำหรับการแต่งกายประจำวันของครู คือการกำหนดชุดการแต่งกายของครูในแต่ละวัน เช่น วันจันทร์ – ชุดข้าราชการ (สีกากี) วันอังคาร – ชุดเสื้อกีฬา วันพุธ – ชุดสุภาพ วันพฤหัส – ชุดลูกเสือ เป็นต้น

หากมองรายภาค พบว่าการต้องใส่กระโปรง (ยกเว้นครูพละ) เป็นกฎที่ครูในภาคกลางไม่ชอบที่สุด ส่วนการเช็คชื่อก่อนเข้าแถวเป็นกฎที่ครูภาคเหนือไม่ชอบมากที่สุด ส่วนการแต่งกายผ้าไทยเป็นกฎที่ครูภาคใต้ไม่ชอบมากที่สุด หากมองในรายสังกัดของโรงเรียน ทั้งครูโรงเรียนรัฐและเอกชนไม่ชอบการแต่งกายประจำวันมากที่สุด นอกจากนี้หากมองครูประถมและมัธยม พบว่าครูประถมไม่ชอบการเช็คชื่อก่อนเข้าแถวเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนครูมัธยมยังคงยกให้การแต่งกายประจำวันเป็นกฎที่ไม่ชอบมากที่สุด

วิชาที่ครูอยากให้ยกเลิกมากที่สุด พบว่า อันดับ 1 วิชาลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด บำเพ็ญประโยชน์เป็นวิชาที่ครูอยากยกเลิกมากที่สุด 114 คน คิดเป็น 37.62% อันดับ 2 วิชาชุมนุม/ชมรม 57 คน คิดเป็น 18.81% อันดับ 3 วิชาหน้าที่พลเมือง 46 คน คิดเป็น 15.18% อันดับ 4 วิชานาฏศิลป์ 18 คน คิดเป็น 5.94% อันดับ 5 วิชาพุทธศาสนา 12 คน คิดเป็น 3.96% อันดับ 6 วิชาพลศึกษา 4 คน คิดเป็น 1.32% และอื่นๆ 52 คน คิดเป็น 17.16% เช่น สุขศึกษา ศิลปะ และส่วนใหญ่เขียนตอบว่าไม่มีวิชาที่อยากยกเลิก

ครูที่อยากให้ยกเลิกวิชาลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด บำเพ็ญประโยชน์ พบว่า ทุกช่วงอายุการทำงานเลือกตอบข้อนี้เป็นสัดส่วนมากที่สุด ครูที่ทำงานมากกว่า 20 ปี มีสัดส่วน 29.76% ของจำนวนครูในกลุ่มนี้ ครูที่ทำงาน 15 ปี- 20 ปี มี 39.02% ของจำนวนครูในกลุ่มนี้ ครูที่ทำงาน 10 ปี -15 ปี มี 37.25% ของจำนวนครูในกลุ่มนี้ ครูที่ทำงาน 5-10 ปี มี 40.48% ของจำนวนครูในกลุ่มนี้ 1-5 ปี มี 42.55% ของจำนวนครูในกลุ่มนี้ น้อยกว่า 1 ปี มี 44.74% ของจำนวนครูในกลุ่มนี้

อะไรคือสิ่งที่ครูไม่อยากให้นักเรียนทำมากที่สุด พบว่า อันดับ 1 ไม่อยากให้นักเรียนเล่นโทรศัพท์ในเวลาเรียนมากที่สุด 101 คน คิดเป็น 33.33% อันดับ 2 การพูดจาหยาบคาย 88 คน คิดเป็น 29.04% อันดับ 3 การล้อเลียนเรื่องกายภาพ เพศ ชาติพันธุ์ สำเนียง 54 คน คิดเป็น 17.82% อันดับ 4 การนินทาครูลงโซเชียลมีเดีย 17 คน คิดเป็น 5.61% อันดับ 5 การโพสต์คลิป/ภาพถ่ายของครูลงโซเชียลมีเดีย 15 คน คิดเป็น 4.95% อันดับ 6 การถึงเนื้อถึงตัว 15 คน คิดเป็น 4.95% และอื่นๆ 13 คน คิดเป็น 4.29% เช่น นักเรียนมาสาย การไม่ตั้งใจเรียน และบางส่วนก็เขียนตอบว่าทุกข้อ

หากพิจารณารายภาค พบว่าครูภาคเหนือและภาคใต้ไม่อยากให้นักเรียนพูดจาหยาบคายมากที่สุด เช่นเดียวกันกับการจำแนกตามสังกัดของโรงเรียน ครูโรงเรียนเอกชนไม่อยากให้นักเรียนพูดจาหยาบคายมากที่สุด นอกจากนี้ครูประถมให้การพูดจาหยาบคายเป็นสิ่งที่ไม่อยากให้นักเรียนทำมากที่สุด

สถานที่ใดที่อยากให้ปรับปรุงมากที่สุด ผลสำรวจพบว่า อันดับ 1 ให้โรงเรียนปรับปรุงห้องน้ำมากที่สุด โดยตอบสูงถึง 134 คน คิดเป็น 44.22% อันดับ 2 คือห้องเรียน 70 คน คิดเป็น 23.10% อันดับ 3 ห้องสมุด 23 คน คิดเป็น 7.59% อันดับ 4 โรงอาหาร 22 คน คิดเป็น 7.26% อันดับ 5 สนามกีฬา 19 คน คิดเป็น 6.27% อันดับ 6 ห้องพยาบาล 14 คน คิดเป็น 4.62% อันดับ 7 ห้องพักครู 11 คน คิดเป็น 3.63% และอื่นๆ 10 คน คิดเป็น 3.30% เช่น ห้องคอมพิวเตอร์ ที่จอดรถ อาคารเรียน และบางส่วนก็เขียนตอบว่าทุกข้อ นอกจากนี้ยังพบว่าไม่ว่าจะเป็นครูชั้นประถมศึกษา มัธยมศึกษา หรือ ปวช. ต่างก็เลือกให้ห้องน้ำเป็นสถานที่ที่อยากให้ปรับปรุงมากที่สุด

สิ่งที่อยากเห็นผู้บริหารโรงเรียนทำที่สุด พบว่า อันดับ 1 ครูอยากให้ยกเลิกนโยบายการประกันเกรด ปลอดศูนย์ ร. มส. ของนักเรียนมากที่สุด 123 คน คิดเป็น 40.59% อันดับ 2 ไม่เลือกปฏิบัติ 100 คน คิดเป็น 33 % อันดับ 3 ยกเลิกการส่งไปอบรมที่ไม่จำเป็น 34 คน คิดเป็น 11.22% อันดับ 4 ไม่ใช้ให้ทำงานส่วนตัว 32 คน คิดเป็น 10.56% อื่นๆ 14 คน คิดเป็น 4.62% เช่น รับฟังความคิดเห็นของครู มีแผนในการทำงาน บางคนเขียนตอบว่า ทุกข้อรวมกัน

เมื่อพิจารณาครูที่ตอบว่าต้องการให้ยกเลิกนโยบายประกันเกรด พบว่า จากผู้ตอบ 123 คน เป็นครูมัธยมมากที่สุด 87 คน หรือคิดเป็น 50.29% ของครูมัธยมทั้งหมด 171 คน ครูประถม 30 คน หรือคิดเป็น 25.42% ของครูประถมทั้งหมด 118 คน ครู ปวช. 6 คน หรือคิดเป็น 42.85% ของครูปวช.ทั้งหมด 14 คน

สิ่งที่อยากเห็นผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการทำมากที่สุด พบว่า อันดับ 1 ครูอยากให้ลดภาระงานเอกสารที่ต้องทำส่งกระทรวงมากที่สุด 146 คน คิดเป็น 48.18% อันดับ 2 เป็นการเพิ่มค่าตอบแทนครู 62 คน คิดเป็น 20.46% อันดับ 3 ปรับระบบการประเมินผลการศึกษาและการประกันคุณภาพ 38 คน 12.54% อันดับ 4 เพิ่มจำนวนครูให้เหมาะสมกับนักเรียน 35 คน 11.55% อันดับ 5 มีระบบรับเรื่องร้องเรียนตรงถึงรัฐมนตรี 9 คน 2.97% และอื่นๆ เช่น เพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุน เพื่อจัดการเอกสารที่ไม่จำเป็นกับการสอน

ทั้งนี้ ผลสำรวจทั้งหมดจัดทำขึ้นในโอกาสวันครู ซึ่งตรงกับวันที่ 16 มกราคมของทุกปี จากจำนวนครูที่ตอบแบบสอบถามออนไลน์ทั่วประเทศทั้งหมด 303 คน พบว่า เป็นเพศชาย 71 คน หญิง 220 คน LGBTQ+ 7 คน และไม่ต้องการระบุเพศ 5 คน ในจำนวนนี้แยกเป็นครูระดับชั้นประถมศึกษา 118 คน ระดับชั้นมัธยมศึกษา 171 คน และ ปวช. 14 คน และเมื่อแยกพื้นที่ของครูที่ตอบแบบสอบถามตามภาคจะพบว่า เป็นครูในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากที่สุด 114 คน คิดเป็น 37.62% รองลงมาคือภาคกลาง 74 คน คิดเป็น 24.42% ตามด้วยภาคเหนือ 70 คน คิดเป็น 23.10% ภาคใต้ 36 คน คิดเป็น 11.88% ภาคตะวันตก 5 คน คิดเป็น 1.65% และภาคตะวันออก 4 คน คิดเป็น 1.32%