คลังคงเป้าจีดีพีปีนี้โต 4% คาดท่องเที่ยว-ใช้จ่ายในประเทศ จะช่วยหนุน

432
0
Share:
คลัง

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 2564 จะขยายตัว 1.2% เนื่องจากเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของ ฟื้นตัวได้ดีกว่าที่คาดไว้ เพราะได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกสินค้า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ

ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดภายในประเทศที่ปรับดีขึ้น รวมทั้งการเร่งกระจายวัคซีนที่มีความครอบคลุมมากขึ้น

กระทรวงการคลังคาดว่าปี 2564 เศรษฐกิจโต 1.2% ดีกว่าปี 2563 ที่หดตัว -6.1% ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนจะขยายตัว 0.2% การลงทุนภาคเอกชนจะขยายตัว 3.7% ขณะที่มูลค่าการส่งออกสินค้าของไทยคาดว่าจะขยายตัวได้ถึง 19% ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าและปัญหาห่วงโซ่อุปทาน ที่ทยอยคลี่คลายลง

ขณะที่เศรษฐกิจไทยในปี 2565 คาดว่าจะขยายตัวเร่งขึ้น อยู่ที่ 4% (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 3.5 -4.5%) โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการใช้จ่ายในประเทศที่ขยายตัวหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ รวมถึงไทย เริ่มมีผลกระทบในวงจำกัด ซึ่งคาดว่าการบริโภคภาคเอกชนจะขยายตัว 4.5% ขณะที่การส่งออกสินค้าคาดว่าจะขยายตัวที่ 3.6% ตามอุปสงค์โลกที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

ส่วนภาคการท่องเที่ยวปี 2565 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในไทย 7 ล้านคน มีรายได้กว่า 4 แสนล้านบาท หลังจากมีมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศผ่านระบบ Test & Go อีกครั้ง

โดยคาดว่าในไตรมาส1 จะมีนักท่องเที่ยวจากฝั่งยุโรป และอเมริกาเข้ามาในประเทศไทย ส่วนช่วงไตรมาส 2 จะมีนักท่องเที่ยวจากทวีปเอเชีย และโซนอาเซียน ส่วนนักท่องเที่ยวจากจีน ยังใช้นโยบายควบคุมการท่องเที่ยวทั้งปี 2565 อยู่ อย่างไรก็ดี ยังคาดว่าในช่วงไตรมาส 3 และ 4 จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาตลอดทั้งปี แต่ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิดด้วย

นอกจากนี้ การดำเนินนโยบายของภาครัฐจะมีสำคัญในการสนับสนุนเศรษฐกิจไทยปี 2565 อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะมีการใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท และงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ 2565 วงเงิน 3.07 แสนล้านบาท

รวมทั้งเงินกู้วงเงิน 5 แสนล้านบาท ในส่วนที่เหลือที่คาดว่าจะมีการเบิกจ่ายได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบในทุกกลุ่มอย่างตรงจุด

ทั้งนี้ คาดว่าการบริโภคภาครัฐและการลงทุนภาครัฐจะขยายตัว 1.2% ต่อปี และ 3.7% ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนคาดว่าจะขยายตัวได้ที่ 5% ในด้านเสถียรภาพภายในประเทศคาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ที่ 1.9% (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 1.4 – 2.4%) และยังอยู่ภายในกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อที่รัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทยร่วมกันกำหนดที่ระดับ 1-3%