คลังประกาศดึงฐานข้อมูลธุรกิจร่วมค้าออนไลน์เข้าระบบ แนะผู้ค้าเข้าระบบแวต

208
0
Share:
คลัง ประกาศดึงฐานข้อมูลธุรกิจร่วม ค้าออนไลน์ เข้าระบบ แนะผู้ค้าเข้าระบบแวต

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลังประเมินว่า จากการที่กรมสรรพากรได้ออกประกาศให้กรมสรรพากรออกประกาศสั่งให้แพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ที่ให้บริการขายหรือจัดส่งสินค้า อาทิ Shopee, Lazada และ Grab ส่งฐานข้อมูลผู้ประกอบการที่ร่วมให้บริการในระบบทั้งหมดมาให้แก่กรมสรรพากร เริ่ม 1 ม.ค.2567 นี้ จะทำให้ผู้มีรายได้จากธุรกิจที่ร่วมค้าขายกับธุรกิจออนไลน์เข้ามาสู่ระบบภาษีมากขึ้น และส่งผลให้กรมฯสามารถจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้น

โดยการออกประกาศดังกล่าว จะทำให้ผู้เสียภาษีเข้ามาสู่ระบบมากขึ้น และส่งผลให้ร้านค้าขายของออนไลน์เข้ามาอยู่ในระบบเพิ่มขึ้น ซึ่งเดิมมีรายได้ 1,000 ล้านบาท แพลตฟอร์มต้องมาเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% แต่ขณะนี้กรมสรรพากรลุกคืบไปอีก ให้แพลตฟอร์มนำส่งข้อมูลด้วยว่า รายได้ 1,000 ล้านบาท มาจากใครบ้าง ฉะนั้น กรมจะเห็นข้อมูลร้านค้า และสามารดึงร้านค้าเข้าระบบภาษีได้ คาดว่าการออกประกาศดังกล่าวจะสามารถจัดเก็บภาษีได้เกิน 1 หมื่นล้านบาท

ขณะที่ กรณีการเรียกฐานข้อมูลดังกล่าว เป็นอำนาจของกรมฯ ที่ได้รับการยกเว้น เพราะเป็นเรื่องของการจัดเก็บภาษี เช่นเดียวกันกับกรณีแลกข้อมูลการตรวจคนเข้าเมืองระหว่างประเทศ รวมทั้ง การแลกข้อมูลรายได้ของผู้เสียภาษีทั้งโลก แต่หากเป็นกรณีอื่นจะไม่สามารถดำเนินการได้

ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงการคลังแนะนำว่า ผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบออนไลน์ ควรเข้ามาอยู่ในระบบภาษีดีที่สุด โดยระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม (Vat) ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว เพราะไม่ได้จัดเก็บภาษีที่ 7% จากรายได้ทั้งหมด แต่เป็นการเก็บภาษี 7% บนฐานกำไร ฉะนั้น จึงขอให้ผู้ค้าออนไลน์มีความเข้าใจในเรื่องดังกล่าว ซึ่งแน่นอนว่า การเสียภาษีให้ถูกต้อง จะดีกว่าการต้องมาเสียภาษีในภายหลัง เพราะด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันทำให้โลกใบนี้แคบลงเรื่อยๆ ทุกอย่างเชื่อมโยงด้วยข้อมูล เมื่อก่อนอาจจะเป็นการตามไม่ได้ ไล่ไม่ทัน แต่จะช้าจะเร็วก็เจอแน่นอน

“ยังมีคนเข้าใจผิดเยอะ เช่น ขายสินค้า 100 บาท ต้องเสียภาษี 7 บาทเลยหรือไม่ ซึ่งบางทีกำไรอาจจะแค่ 5 บาท ซึ่งถ้าเสียภาษี 7% ร้านค้าจะอยู่ได้อย่างไร ความจริงแล้ว ของขายประมาณ 100 บาท มีต้นทุนมา 90 บาท และต้องเสียภาษี 7% ของกำไร 10 บาท ก็เท่ากับ 70 สตางค์เท่านั้น”