คลังเร่งลดกรอบเพดานหนี้กลับสู่ 30% จากเดิมที่ขยายเป็น 35% ในช่วงสถานการณ์โควิด

286
0
Share:
คลัง เร่งลดกรอบเพดาน หนี้ กลับสู่ 30% จากเดิมที่ขยายเป็น 35% ในช่วงสถานการณ์โควิด

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่ากรณีที่วงเงินใช้จ่ายรัฐตามมาตรา 28 ของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ที่เหลือเพียง 1.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งอาจจะเป็นข้อจำกัดในการดำเนินนโยบายกึ่งการคลังของรัฐบาลชุดใหม่นั้น

ปัจจุบันกรอบวงเงินในการใช้จ่ายตามมาตรา 28 ของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง อยู่ที่ 32% ซึ่งลดลงจากเดิมที่ได้มีการขยายเป็น 35% ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ส่วนจะต้องมีการขยายเพดานเพิ่มหรือไม่นั้น คงต้องดูความจำเป็น และต้องนำเสนอให้คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังพิจารณา

นายอาคม มองว่าขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นจะต้องขยายเพิ่ม และมองว่ากรอบวงเงินดังกล่าว ควรกลับไปอยู่ในระดับที่ 30% ตามเดิม เพื่อสร้างความยั่งยืนทางการคลัง

อย่างไรก็ตามยอมรับว่ากรอบเพดานการใช้จ่ายวงเงินตามมาตรา 28 ที่ต้องขยายเพิ่มเป็น 35% นั้น จะช่วยเหลือและสนับสนุนโครงการรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการที่ดูแลประชาชน เกษตรกร ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่โครงการต่างๆ ดำเนินการจบเรียบร้อย ก็ควรต้องปิดโครงการเพื่อคืนวงเงินกลับมา ไม่ควรปล่อยค้างไว้ เพื่อให้กรอบวงเงินปรับลดลงมาอยู่ที่ 30% ตามที่กำหนดไว้ โดยขณะนี้ได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ติดตามอยู่ว่าโครงการใดดำเนินการจบแล้ว ก็ให้คืนวงเงินกลับมา

สาเหตุที่ยอดคงค้างตามมาตรา 28 จะยังสูงอยู่ เนื่องจากการตั้งงบประมาณมาเพื่อใช้คืนให้หน่วยงานที่ดำเนินโครงการไม่เป็นไปตามจำนวน ซึ่งคลังได้พยายามขอกับทางสำนักงบประมาณว่าให้มีการตั้งงบชำระคืนให้หน่วยงานที่ 3.5-4% ไม่งั้นวงเงินตามมาตรา 28 ก็จะเต็มอยู่ตลอด ซึ่งส่วนใหญ่วงเงินที่คืน ก็คืนให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพราะรับภาระเรื่องการชดเชยเยอะ และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ซึ่งช่วยค้ำประกันให้ SME

ขณะที่โครงการประกันภัยนาข้าวรอบล่าสุดที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ยังไม่ได้มีการพิจารณาเห็นชอบนั้น ยืนยันว่าไม่ได้ติดปัญหา หรือมีปัญหาเรื่องงบประมาณแต่อย่างใด เพราะโครงการต้องใช้เงินจากมาตรา 28 อยู่แล้ว เพียงแต่นำเสนอให้ ครม. พิจารณาไม่ทัน ส่วนกรณีที่หากเกิดภัยพิบัติขึ้นมาขณะนี้ ก็ยังมีมาตรการอื่นๆ อีกหลายมาตรการที่รองรับอยู่แล้ว