คาร์ซั่มตัดค่าใช้จ่ายหนัก ลดขนาดธุรกิจ-ปลดพนักงานกว่าหลายร้อยคนในไทยและอินโดนีเซีย

736
0
Share:
คาร์ซั่ม ตัดค่าใช้จ่ายหนัก ลดขนาดธุรกิจ- ปลดพนักงาน กว่าหลายร้อยคนในไทยและอินโดนีเซีย

คาร์ซั่ม (Carsome) กรุ๊ป ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายรถยนต์มือสองออนไลน์ชื่อดังจากประเทศมาเลเซียที่มีอายุมานาน 8 ปี เปิดเผยว่า ได้ลดขนาดการดำเนินธุรกิจ และปลดพนักงานจำนวนมากในสำนักงานคาร์ซั่มที่ตั้งอยู่ในประเทศไทยและอินโดนีเซีย เพื่อต้องการตัดลดและควบคุมค่าใช้จ่ายให้สามารถทำกำไรก่อนจะเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์

คาร์ซั่มได้เข้ามาเปิดตลาดด้วยแพลตฟอร์มซื้อขายรถยนต์มือสองในประเทศไทยและอินโดนีเซียเมื่อปี 2017 เป็นต้นมา นอกจากนี้ ยังมีตลาดในประเทศสิงค์โปร์อีกด้วย รวมทั้งหมด 3 ประเทศที่คาร์ซั่มบุกเบิกตลาดซื้อขายมือสองออนไลน์ด้วยจำนวนพนักงานทั้งหมด 4,000 คน มีพันธมิตรดีลเลอร์รถยนต์มือสองรวมทั้งหมดกว่า 13,000 ราย และสามารถขายรถยนต์มือสองได้ 150,000 คันในปี 2022

คาร์ซั่มเป็นธุรกิจประเภทสตาร์ทอัพสัญชาติมาเลเซียมีแผนที่จะนำบริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์คู่ขนานทั้งที่ตลาดหุ้นสิงค์โปร์ และตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา แต่ต้องเลื่อนเวลาการเข้าจดทะเบียนใน 2 ตลาดหลักทรัพย์อย่างไม่มีกำหนด ท่ามกลางปัจจัยลบที่เป็นอุปสรรคในการเข้าระดมทุน ไม่ว่าจะเป็นภาวะเศรษฐกิจภาพรวมในภูมิภาคอาเซียนในช่วง 2-3 ปีที่ชะลอตัว ซึ่งกระทบต่อการประเมินมูลค่าของธุรกิจและบริษัทคาร์ซั่ม

นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยในระดับสูง เมื่อรวมกับภาวะเศรษฐกิจซบเซา และความตรึงเครียดของสถานการณ์ความขัดแย้งในภูมิภาคที่เกิดขึ้น ทั้งหมดส่งผลฉุดความเชื่อมั่นในตลาดผู้บริโภครถยนต์มือสอง ที่สำคัญ ส่งผลกระทบต่อภาวะการเสนอขายหุ้นครั้งแรกให้กับนักลงทุนทั่วไป หรือหุ้นไอพีโอของบริษัทคาร์ซั่ม

ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกรกฎาคมผ่านมา นายอีริค เช็ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ คาร์ซั่ม เคยกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม คาร์ซั่มจะสามารถดำเนินธุรกิจถึงจุดคุ้มทุนได้ภายในสิ้นปีนี้ และคาดการณ์ว่าจะสามารถทำกำไรเป็นปีแรกในปี 2024

ทั้งนี้ ในช่วงต้นปี 2022 ที่ผ่านมา คาร์ซั่มซึ่งเป็นธุรกิจสตาร์ทอัพได้ระดมทุนเป็นเงินกู้มูลค่า 290 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 10,440 ล้านบาท ทำให้บริษัทคาร์ซั่มถูกตีมูลค่า 1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 61,200 ล้านบาท ถูกจัดอยู่ในบริษัทสตาร์ทอัพที่ระดมทุนประเภทซีรีย์อี (E) ซึ่งมีสถาบันการเงินต่างๆ ให้การปล่อยกู้ ได้แก่ องค์กรการลงทุนการ์ตา หรือ QIA บริษัท 65 เอควิตี้ พาร์ทเนอร์ และกองทุนเพื่อการลงทุนซีทาวน์ มาสเตอร์ หรือ Seatown Private Capital Master Fund สำหรับทั้ง 2 สถาบันการเงินการลงทุนหลังนี้ได้รับการสนับสนุนโดยกองทุนเทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ จากประเทศสิงค์โปร์